เรซิ่นเอสเจตัวจริงเรื่องเรซิ่น มาตลอด 30 ปี

โทร :
, 02-379-4555
, 02-379-4575

เรซิ่นเอสเจตัวจริงเรื่องเรซิ่น มาตลอด 30 ปี

กำจัดฟองอากาศในเรซิ่นและของเหลวให้ไร้ที่ติด้วยระบบสุญญากาศ

การสร้างสรรค์ผลงานเรซิ่นที่สวยงามและปราศจากตำหนิเป็นความฝันของทุกคน แต่สิ่งหนึ่งที่มักสร้างความปวดหัวให้กับนักสร้างสรรค์ทั้งมือใหม่และมืออาชีพก็คือ ฟองอากาศในเรซิ่น! ฟองอากาศเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้ชิ้นงานดูไม่สวยงาม แต่ยังลดทอนความแข็งแรงและอายุการใช้งานอีกด้วย บทความนี้จะตอบทุกให้เข้าใจ และตอบทุกปัญหาให้คลายสงสัยครับ

กำจัดฟองอากาศในเรซิ่นคืออะไร และทำไมต้องกำจัด?

ฟองอากาศในเรซิ่น คือ ฟองก๊าซขนาดเล็กที่ติดอยู่ในเนื้อเรซิ่น มักเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการผสม การเท หรือการบ่มเรซิ่น สาเหตุหลักมาจาก 

  • การผสมที่ไม่ถูกต้อง  การคนเรซิ่นและตัวเร่งปฏิกิริยาที่รุนแรงเกินไปสามารถสร้างฟองอากาศจำนวนมากได้
  • ความหนืดของเรซิ่น  เรซิ่นที่มีความหนืดสูงจะทำให้ฟองอากาศลอยขึ้นสู่ผิวยากขึ้น
  • การเทที่ไม่เหมาะสม  การเทเรซิ่นจากที่สูงหรือการเทเร็วเกินไปก็สามารถทำให้เกิดฟองอากาศได้

การมีฟองอากาศในชิ้นงานเรซิ่นส่งผลเสียหลายประการ เช่น ทำให้ชิ้นงานไม่เรียบเนียน ดูเป็นโพรง ลดความใส เพิ่มความเปราะบาง และทำให้งานดูไม่เป็นมืออาชีพ ดังนั้นการ กำจัดฟองอากาศในเรซิ่น จึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่ง

ฟองอากาศเกิดขึ้นได้อย่างไร? ทำไมของเหลวถึงมีฟองอากาศได้?

ถึงมีฟองอากาศปนเปื้อนอยู่ได้? ฟองอากาศเหล่านี้มักเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุหลัก ๆ ครับ 

  • การผสมหรือกวน  ในขั้นตอนการผสมส่วนผสมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการกวนด้วยมือหรือเครื่องจักร จะเกิดการนำพาอากาศเข้าไปในเนื้อของเหลว ทำให้เกิดฟองอากาศเล็ก ๆ จำนวนมาก
  • การเทหรือบรรจุ  เมื่อเทของเหลวจากภาชนะหนึ่งไปยังอีกภาชนะหนึ่ง อากาศสามารถถูกกักเก็บหรือสร้างฟองขึ้นมาได้ โดยเฉพาะเมื่อเทจากที่สูง หรือเทอย่างรวดเร็ว
  • ปฏิกิริยาเคมี  ในบางกรณี เช่น การผสมเรซิ่นกับสารเร่งแข็ง อาจเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ทำให้เกิดแก๊ส ซึ่งแก๊สเหล่านี้ก็จะกลายเป็นฟองอากาศในเนื้อเรซิ่นได้

การกักเก็บอากาศในเนื้อวัสดุ  พื้นผิวที่ไม่เรียบของวัตถุที่นำไปเคลือบหรือหล่อ สามารถกักเก็บอากาศไว้ได้ เมื่อของเหลวไหลผ่าน อากาศที่ถูกกักไว้ก็จะกลายเป็นฟอง

ทำไมของเหลวถึงมีฟองอากาศได้ ฟื้นคืนชีพโต๊ะหินอ่อน, กำจัดฟองอากาศในเรซิ่น

ปัญหาที่ฟองอากาศสร้างขึ้นในของเหลว

ฟองอากาศเล็ก ๆ เหล่านี้อาจดูไม่เป็นอันตราย แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันสามารถสร้างปัญหาให้กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น 

ลดทอนความสวยงาม

ในงานเรซิ่น ฟองอากาศจะทำให้ชิ้นงานดูขุ่นมัว ไม่โปร่งใส และลดคุณค่าความสวยงามลงอย่างมาก

ลดความแข็งแรง

ฟองอากาศที่ติดอยู่ในเนื้อเรซิ่นจะสร้างช่องว่าง ทำให้โครงสร้างภายในไม่เป็นเนื้อเดียวกัน และลดความแข็งแรงของชิ้นงานลงอย่างมีนัยสำคัญ

ส่งผลต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์

ในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ครีม โลชั่น หรือแม้กระทั่งสี ฟองอากาศอาจทำให้เนื้อสัมผัสไม่เนียนสม่ำเสมอ ลดประสิทธิภาพการใช้งาน และอาจทำให้อายุการเก็บรักษาสั้นลง

เพิ่มความเสียหาย

ฟองอากาศอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความเสียหายอื่น ๆ เช่น การแตกร้าว หรือการหลุดลอกในระยะยาว

Resinsj ชุดถังสุญญากาศและปั๊มสุญญากาศ ตัวช่วยกำจัดฟองอากาศในเรซิ่นที่คุณวางใจ

ที่ Resinsj เราเข้าใจถึงปัญหาฟองอากาศเหล่านี้เป็นอย่างดี และได้จัดเตรียม ชุดถังสุญญากาศและปั๊มสุญญากาศ ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะ ชุดอุปกรณ์ของเรามีประสิทธิภาพสูงในการดูดไล่ฟองอากาศออกจากของเหลวได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับของเหลวที่มีความหนืดไม่สูงมากนัก คุณจะได้รับผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง คือของเหลวที่ไร้ฟองอากาศ เนียนใส และมีคุณภาพตามที่คุณต้องการ

อีพ็อกซี่เรซิ่น [Epoxy Resin] คืออะไร ทำไมถึงไม่มีกลิ่นฉุน

เรซิ่น คืออะไร ? ทำความรู้จักกันก่อนจะไปเริ่มทำงานเรซิ่น

จุดเด่นของชุดอุปกรณ์จาก Resinsj

  • ประสิทธิภาพสูง  สร้างสุญญากาศได้อย่างรวดเร็วและคงที่ ช่วยให้ฟองอากาศขยายตัวและลอยตัวขึ้นสู่ผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ใช้งานง่าย  ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถใช้งานได้

ทนทาน  วัสดุคุณภาพสูง ทนทานต่อการใช้งาน และดูแลรักษาง่าย

เคล็ดลับสำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานและป้องกันของเหลวเข้าปั๊ม ในการกำจัดฟองอากาศในเรซิ่น

วิธีการใช้งานถังสุญญากาศและปั๊มสุญญากาศอย่างละเอียด เพื่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนาน

การใช้งานปั๊มสุญญากาศและถังสุญญากาศอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ รวมถึงป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากของเหลวเข้าไปในปั๊ม

1. การเตรียมปั๊มสุญญากาศ เติมน้ำมันปั๊มสุญญากาศ

  • ตรวจสอบระดับน้ำมัน  ก่อนการใช้งานครั้งแรก หรือหากไม่ได้ใช้งานมานาน ให้ตรวจสอบระดับน้ำมันปั๊มสุญญากาศ หากระดับต่ำกว่าขีดที่กำหนด (มักจะมีระบุไว้บนตัวปั๊ม) ให้เติมน้ำมันปั๊มสุญญากาศสำหรับปั๊มสุญญากาศโดยเฉพาะ (Vacuum Pump Oil) ห้ามใช้น้ำมันชนิดอื่นแทน!
  • ตำแหน่งการเติม  ช่องเติมน้ำมันอยู่ด้านบนของปั๊ม เปิดฝาเติมน้ำมัน(สีแดง)ออกอย่างระมัดระวัง
  • ค่อยๆ เติม  ค่อย ๆ เติมน้ำมันลงไปจนถึงระดับที่กำหนด (โดยดูจากหน้าต่างใสสำหรับดูระดับน้ำมันด้านหน้า) ระวังอย่าเติมมากเกินไป เพราะอาจทำให้ปั๊มทำงานผิดปกติได้
  • ปิดฝาให้แน่น  เมื่อเติมเสร็จแล้ว ให้ปิดฝาเติมน้ำมันให้แน่นสนิท
  • ติดตั้งข้อต่อพิเศษสำหรับปั้มสุญญากาศ  ควรใช้เทปพันเกลียวช่วยป้องกันการรั่วซึม

2. การเตรียมถังสุญญากาศ

  • ตรวจสอบความสะอาด  ตรวจสอบภายในถังสุญญากาศและฝาปิดว่าสะอาดและไม่มีสิ่งแปลกปลอม หากมี ให้ทำความสะอาดให้เรียบร้อย
  • ต่อสายยาง  เชื่อมต่อสายยางสุญญากาศจากปั๊มสุญญากาศเข้ากับช่องต่อบนถังสุญญากาศ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อแน่นหนา ไม่มีการรั่วซึม
  •  

3. การใช้งานถังสุญญากาศและปั๊มสุญญากาศ

    • เตรียมภาชนะใส่ของเหลว  เลือกภาชนะที่มีขนาดเหมาะสมกับปริมาณของเหลวที่คุณต้องการไล่ฟอง สิ่งสำคัญคือ ภาชนะนี้ต้องมีพื้นที่ว่างด้านบนเพียงพอ ให้ฟองอากาศที่ขยายตัวสามารถลอยขึ้นและแตกออกได้ (อ่านเพิ่มเติมในหัวข้อถัดไป)
    • วางภาชนะในถังสุญญากาศ  วางภาชนะที่ใส่ของเหลวไว้ในถังสุญญากาศ
    • ปิดฝาถังสุญญากาศ  ปิดฝาถังสุญญากาศให้แน่นสนิทเปิดวาล์วลมเข้าปั๊ม และปิดวาล์วระบายอากาศบนถังสุญญากาศ
    • เปิดเครื่องปั๊มสุญญากาศ  เปิดสวิตช์เครื่องปั๊มสุญญากาศ เครื่องจะเริ่มดูดอากาศออกจากถัง
    • สังเกตเกจวัดแรงดัน  สังเกตเกจวัดแรงดันบนถังสุญญากาศ แรงดันจะค่อย ๆ ลดลงสู่ระดับสุญญากาศ
    • สังเกตฟองอากาศ  คุณจะเริ่มเห็นฟองอากาศในของเหลวขยายตัวและลอยขึ้นสู่ผิวด้านบน เมื่อแรงดันลดลงถึงระดับหนึ่ง ฟองอากาศจะขยายตัวและแตกออกไป
    • ระยะเวลาการดูด  ระยะเวลาที่ใช้ในการดูดไล่ฟองขึ้นอยู่กับปริมาณและประเภทของของเหลว รวมถึงความหนืดของของเหลวนั้น ๆ โดยทั่วไป อาจใช้เวลา 5-15 นาที หรือจนกว่าคุณจะไม่เห็นฟองอากาศผุดขึ้นมาแล้ว     **อาจจะสังเกตูการยุบตัวอย่างรวดเร็วของฟอกอากาศ จะแสดงว่าฟองอากาศ ได้ออกจากของเหลว เพียงพอแล้ว
    • ปิดวาล์วและปิดปั๊ม  เมื่อไล่ฟองอากาศเสร็จสิ้น ให้ปิดวาล์วที่เชื่อมต่อระหว่างถังกับปั๊ม (ถ้ามี) จากนั้นจึงปิดเครื่องปั๊มสุญญากาศ เพื่อรักษาระดับสุญญากาศในถังไว้
    • คืนแรงดันอากาศ  ค่อย ๆ เปิดวาล์วระบายอากาศบนถังสุญญากาศ เพื่อให้อากาศภายนอกไหลกลับเข้าไปในถัง แรงดันจะกลับสู่ปกติ
    • นำภาชนะออก  เมื่อแรงดันกลับสู่ปกติแล้ว ค่อย ๆ เปิดฝาถังสุญญากาศและนำภาชนะที่บรรจุของเหลวที่ไล่ฟองแล้วออกมา

เคล็ดลับสำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานและป้องกันของเหลวเข้าปั๊ม

  • ใช้กับของเหลวที่เหมาะสม  ปั๊มสุญญากาศและถังสุญญากาศมีประสิทธิภาพสูงสุดกับของเหลวที่มีความหนืดไม่สูงมากนัก ของเหลวที่มีความหนืดสูงมากอาจทำให้การไล่ฟองไม่สมบูรณ์ และอาจเป็นอันตรายต่อปั๊มได้
  • อย่าให้ของเหลวถูกดูดเข้าไปในปั๊ม  นี่คือข้อควรระวังที่สำคัญที่สุด! หากของเหลวถูกดูดเข้าไปในปั๊ม จะทำให้ปั๊มเสียหายอย่างรุนแรง สิ่งที่คุณต้องทำคือ 
    • ใช้ภาชนะที่มีขนาดเหมาะสม  ภาชนะที่ใส่ของเหลวต้องมีพื้นที่ว่างด้านบนเพียงพอ เพื่อรองรับการขยายตัวของฟองอากาศ
    • อย่าเติมของเหลวเต็มภาชนะ  เติมของเหลวในภาชนะเพียง 1/2 หรือ 1/3 ของปริมาตรภาชนะ เพื่อให้มีพื้นที่ว่างให้ฟองอากาศขยายตัวและลอยขึ้นไปได้อย่างอิสระ
    • ไม่ควรดูดนานเกินไป  หากฟองอากาศผุดขึ้นมามากจนใกล้ถึงปากภาชนะ หรือมีแนวโน้มจะล้น ให้ปิดวาล์วหรือปิดปั๊มทันที
  • บำรุงรักษาตามคู่มือ  ปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานของปั๊มสุญญากาศในการเปลี่ยนน้ำมันและบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนด

ข้อมูลทางเทคนิคสำหรับการไล่ฟองในงานหล่อเรซิ่น

การไล่ฟองในงานหล่อเรซิ่นมีหลักการสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่สมบูรณ์แบบ 

  • การลอยตัวของฟองอากาศ  เมื่ออยู่ในสภาวะสุญญากาศ ฟองอากาศจะขยายตัวและมีน้ำหนักเบาลง ทำให้ฟองอากาศลอยขึ้นตรง ๆ สู่ผิวด้านบนของของเหลวอย่างรวดเร็ว
  • พื้นที่เผื่อการขยายตัวและแตกตัว  เมื่อฟองอากาศลอยขึ้นมาถึงผิวน้ำ และแรงตึงผิวของของเหลวนั้นไม่สามารถต้านทานการขยายตัวของฟองอากาศได้อีกต่อไป ฟองอากาศจะ “แตกออกเปรี๊ยะ ๆ” ที่ผิวด้านบน นั่นหมายความว่า ภาชนะที่ใส่เรซิ่นสำหรับการไล่ฟองอากาศด้วยระบบสุญญากาศ ต้องมีพื้นที่ว่างด้านบนเหลือเฟือ เพื่อให้ฟองอากาศมีพื้นที่เพียงพอในการขยายตัว ลอยขึ้น และแตกออกไปอย่างสมบูรณ์ ปริมาณเรซิ่นที่เหมาะสมในภาชนะมักจะอยู่ที่ประมาณ 1/3 ถึง 1/2 ของความสูงภาชนะ
  • ข้อควรระวังสำหรับชิ้นงานที่มีส่วนโค้งเว้าหรือซอกหลืบ  แม้ว่าระบบสุญญากาศจะช่วยดึงอากาศออกจากเรซิ่นได้ดี แต่หากชิ้นงานที่กำลังหล่อมีส่วนโค้งเว้า ซอกหลืบ หรือรายละเอียดที่ซับซ้อนมาก ๆ อากาศอาจถูกกักอยู่ในบริเวณเหล่านั้นและไม่สามารถลอยขึ้นมาได้ง่ายนัก ในกรณีเหล่านี้ การออกแบบแม่พิมพ์โดยเผื่อข้อต่อระบายอากาศ (Vent) หรือช่องระบายอากาศเล็ก ๆ ในจุดที่อากาศมีแนวโน้มจะถูกกักไว้ จะช่วยให้การไล่ฟองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ไม่แน่ใจว่าของเหลวของคุณจะไล่ฟองได้สำเร็จไหม?

เรารู้ดีว่าของเหลวแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเรื่องความหนืด หากของเหลวหรือเนื้อครีมของคุณมีความหนืดสูงมาก การไล่ฟองด้วยระบบสุญญากาศอาจไม่สมบูรณ์ 100% หรืออาจต้องใช้เทคนิคและอุปกรณ์ที่แตกต่างออกไป

หากคุณไม่แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของคุณจะสามารถไล่ฟองด้วยชุดอุปกรณ์ของ Resinsj ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา! คุณสามารถส่งตัวอย่างของเหลวหรือเนื้อครีมของคุณมาให้ Resinsj เพื่อทำการทดสอบการไล่ฟองได้ เรายินดีให้คำแนะนำและช่วยเหลือเพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เคล็ดลับสำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานและป้องกันของเหลวเข้าปั๊ม ในการกำจัดฟองอากาศในเรซิ่น

คำถาม-คำตอบยอดฮิต ในการใช้ปั๊มและถังสุญญากาศไล่ฟองอากาศ

นี่คือชุดคำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบที่เข้าใจง่ายและเป็นมืออาชีพ เพื่อให้คุณทำงานกับครีมหรือของเหลวได้อย่างมั่นใจครับ

หมวดหมู่ หลักการทำงานและเทคนิค

ถาม  ทำไมต้องใช้ระบบสุญญากาศเพื่อไล่ฟองอากาศ? 

ตอบ  หลักการคือการลดความดันอากาศในถังให้ต่ำลงอย่างมาก เมื่อความดันภายนอกของเหลวลดลง ฟองอากาศที่ถูกกักอยู่ภายในเนื้อครีมหรือของเหลวจะขยายตัวและลอยขึ้นสู่ผิวหน้าได้ง่ายและรวดเร็วกว่าสภาวะปกติ ทำให้เราได้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อเนียนสวยงาม ไม่มีฟองอากาศ และอาจช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้ด้วยเพราะออกซิเจนถูกกำจัดออกไป

ถาม  ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการไล่ฟองอากาศ? 

ตอบ  ไม่มีคำตอบตายตัวครับ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น 

  • ความหนืดของผลิตภัณฑ์  ของเหลวที่หนืดมาก (เช่น ซิลิโคน, เรซิ่น) จะใช้เวลานานกว่าของเหลวที่ใส (เช่น น้ำมัน)
  • ปริมาณของผลิตภัณฑ์  ปริมาณมากก็ใช้เวลานานขึ้น
  • ประสิทธิภาพของปั๊ม  ปั๊มที่ทำสุญญากาศได้ลึกและเร็วก็จะใช้เวลาน้อยลง

วิธีที่ดีที่สุดคือ สังเกตการณ์ด้วยสายตา เมื่อไม่เห็นฟองอากาศขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ให้คงสภาวะสุญญากาศไว้อีกสักครู่ (เช่น 5-15 นาที) เพื่อให้แน่ใจว่าฟองอากาศเล็กๆ ถูกกำจัดออกไปหมดแล้ว

ถาม  ควรใส่ผลิตภัณฑ์ในภาชนะแค่ไหนก่อนนำเข้าถัง? 

ตอบ  ไม่ควรเกิน 1/3 ถึง 1/2 ของภาชนะ นี่เป็นเรื่องสำคัญมากครับ เพราะเมื่อเริ่มทำสุญญากาศ ของเหลวจะ “ฟู” หรือขยายตัวขึ้นจากฟองอากาศที่ขยายตัว หากใส่ผลิตภัณฑ์มากเกินไป อาจทำให้ล้นออกจากภาชนะและหกเลอะเทอะในถังสุญญากาศได้

หมวดหมู่ ไอระเหยและปัญหาที่พบบ่อย (คำถามจากคุณ)

ถาม  ควรรับมือกับไอระเหยที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานได้อย่างไร? 

ตอบ  ไอระเหยที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ ไม่ได้มาจากตัวปั๊ม แต่มาจากผลิตภัณฑ์ของคุณเอง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหรือตัวทำละลาย (Solvent) ที่ระเหยง่าย

หลักการคือ  เมื่อความดันลดลง “จุดเดือด” ของของเหลวก็จะลดลงตามไปด้วย นั่นหมายความว่าน้ำหรือส่วนผสมอื่นๆ อาจ “เดือด” หรือกลายเป็นไอได้แม้อยู่ในอุณหภูมิห้อง

วิธีรับมือ 

  1. ค่อยๆ ลดความดัน  อย่าเปิดวาล์วให้ปั๊มดูดอากาศออกเต็มที่ในครั้งเดียว ค่อยๆ เปิดวาล์วช้าๆ เพื่อให้ฟองอากาศค่อยๆ ลอยขึ้นมา หากเห็นว่าผลิตภัณฑ์เริ่มเดือดหรือฟูรุนแรง ให้ปิดวาล์วหรือปล่อยอากาศเข้าเล็กน้อยเพื่อให้สภาวะคงที่ แล้วจึงเริ่มทำสุญญากาศต่อ
  2. ทำงานในที่อากาศถ่ายเท  ไอระเหยที่ออกมาจากท่อไอเสียของปั๊มคือไอจากผลิตภัณฑ์ของคุณ ควรทำงานในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกเสมอ

ถาม  ไอระเหยจากปั๊มแวคคั่ม เกิดขึ้นได้อย่างไร? 

ตอบ  นี่เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนที่พบบ่อยครับ ตัวปั๊มเองไม่ได้สร้างไอระเหย แต่ทำหน้าที่ “ดูด” และ “ปล่อย” ไอระเหยที่มาจากแหล่งอื่นครับ

ลำดับการเกิดเหตุการณ์เป็นดังนี้ 

  1. ต้นทาง  ไอระเหยเกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์ของคุณในถังสุญญากาศ (ตามที่อธิบายข้างบน)
  2. การเดินทาง  ปั๊มสุญญากาศดูดอากาศและ “ไอระเหย” เหล่านั้นออกจากถัง
  3. การปนเปื้อน (สำหรับปั๊มแบบใช้น้ำมัน)  ไอระเหย (โดยเฉพาะไอน้ำ) จะเข้าไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่นในปั๊ม ทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพ (กลายเป็นสีขุ่นคล้ายนม) และลดประสิทธิภาพในการทำสุญญากาศลง
  4. ทางออก  ปั๊มจะปล่อยอากาศและไอระเหยที่ดูดเข้ามาทั้งหมดออกทาง “ท่อไอเสีย” (Exhaust Port) ของปั๊ม ทำให้เราเห็นเป็นควันหรือไอออกมา ซึ่งก็คือไอจากผลิตภัณฑ์ของเรานั่นเอง

สรุปง่ายๆ คือ  ปั๊มเป็นเพียง “ทางผ่าน” ของไอระเหย ไม่ใช่ “ผู้สร้าง” ครับ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการดักจับไอระเหยก่อนที่มันจะไปถึงตัวปั๊ม

ข้อควรระวังและความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด

  • สวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน  สวมแว่นตานิรภัยเสมอ ถังสุญญากาศอยู่ภายใต้แรงกดดันสูงมากจากภายนอก หากเกิดการแตกร้าวอาจเป็นอันตรายได้
  • ตรวจสอบสภาพถัง  ห้ามใช้ถังที่มีรอยร้าวหรือรอยบิ่น โดยเฉพาะถังที่เป็นแก้วหรืออะคริลิก
  • ห้ามมองข้ามน้ำมันปั๊ม (สำหรับปั๊มแบบ Oil-Sealed) 
    • ตรวจสอบระดับน้ำมันให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดเสมอ
    • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันทันทีเมื่อเห็นว่าน้ำมันเริ่มขุ่นหรือเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่นเหมือนนม เพราะนั่นคือสัญญาณว่ามีไอน้ำเข้าไปปนเปื้อนแล้ว การฝืนใช้ต่อจะทำให้ปั๊มเสียหายอย่างรวดเร็ว
  • การระบายอากาศ  ไอเสียของปั๊มอาจมีละอองน้ำมันและไอระเหยจากผลิตภัณฑ์ของคุณปะปนอยู่ ควรตั้งปั๊มในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก  โดยอาจจะต่อท่อลมและสายไฟยาวเข้ามาหาถังในห้องทำงานได้
  • ปล่อยอากาศเข้าอย่างช้าๆ  หลังจากทำงานเสร็จ เมื่อจะเปิดฝาถัง ให้ค่อยๆ เปิดวาล์วปล่อยอากาศเข้าช้าๆ การปล่อยให้อากาศไหลเข้าอย่างรวดเร็วอาจทำให้ผลิตภัณฑ์กระฉอกได้

การทำความเข้าใจหลักการและปฏิบัติตามข้อควรระวังเหล่านี้ จะช่วยให้คุณใช้งานระบบสุญญากาศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไปได้อีกนานครับ

ปัญหาที่มือใหม่มักจะเจอ

นอกจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น มือใหม่มักจะเจอปัญหาเหล่านี้ 

  • เลือกปั๊มและห้องสุญญากาศไม่เหมาะสม  การเลือกขนาดและกำลังดูดของปั๊มที่ไม่ตรงกับปริมาณงาน อาจทำให้ประสิทธิภาพไม่ดีพอ
  • การดูแลรักษาอุปกรณ์  ละเลยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันปั๊มสุญญากาศ หรือการทำความสะอาดซีลยาง ทำให้ประสิทธิภาพลดลงและอุปกรณ์เสียหายได้ง่าย
  • ไม่ได้เผื่อพื้นที่เรซิ่นในการขยายตัว  ทำให้เรซิ่นล้นออกมาเลอะเทอะภายในห้องสุญญากาศ
  • เปิดวาล์วอากาศเร็วเกินไป  การปล่อยอากาศเข้าห้องสุญญากาศเร็วเกินไปอาจทำให้ฟองอากาศที่แตกไปแล้วกลับไปถูกดึงกลับเข้าสู่เนื้อเรซิ่นได้อีก

ด้วยเทคนิคและคำแนะนำจาก Resinsj คุณจะสามารถ กำจัดฟองอากาศในเรซิ่น และของเหลวต่างๆ ได้อย่างมืออาชีพ สร้างสรรค์ผลงานที่ไร้ที่ติ และเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงานของคุณได้อย่างแน่นอน! หากคุณกำลังมองหาระบบสุญญากาศที่มีคุณภาพ Resinsj มีผลิตภัณฑ์และคำแนะนำดีๆ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของคุณครับ

Picture of ผู้เขียน: พี่นิ้ง ResinSJ
ผู้เขียน: พี่นิ้ง ResinSJ

พี่นิ้ง เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานเรซิ่น ซึ่งมากด้วยประสบการณ์งานคอมโพสิตทั้งหมด เช่น
งานไฟเบอร์กลาส งานคาร์บอน ไฟเบอร์ และงานซิลิโคน รวมทั้งการสร้างสรรค์ ผสมผสานวัตถุดิบ และเทคนิคเข้าด้วยกัน ซึ่งผ่านการเปิดคอร์สนับ 10 ครั้ง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี และมีคำขวัญที่ว่า "เฝ้าดูลูกค้าเติบโต"

สอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อติดต่อ

บริษัท เอสเจ สินธุพันธ์เทรดดิ้ง จำกัด

โทรศัพท์ : 02-379-4555 , 02-379-4575 , 02-379-4604

โทรศัพท์มือถือ : 088-299-0267 , 086-317-1747

Line ID : @resinsj

Facebook : เรซิ่น เอสเจลำสาลี

รอบจัดส่ง