การสร้างสรรค์ผลงานเรซิ่นที่สวยงามและปราศจากตำหนิเป็นความฝันของทุกคน แต่สิ่งหนึ่งที่มักสร้างความปวดหัวให้กับนักสร้างสรรค์ทั้งมือใหม่และมืออาชีพก็คือ ฟองอากาศในเรซิ่น! ฟองอากาศเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้ชิ้นงานดูไม่สวยงาม แต่ยังลดทอนความแข็งแรงและอายุการใช้งานอีกด้วย บทความนี้จะตอบทุกให้เข้าใจ และตอบทุกปัญหาให้คลายสงสัยครับ
กำจัดฟองอากาศในเรซิ่นคืออะไร และทำไมต้องกำจัด?
ฟองอากาศในเรซิ่น คือ ฟองก๊าซขนาดเล็กที่ติดอยู่ในเนื้อเรซิ่น มักเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการผสม การเท หรือการบ่มเรซิ่น สาเหตุหลักมาจาก
- การผสมที่ไม่ถูกต้อง การคนเรซิ่นและตัวเร่งปฏิกิริยาที่รุนแรงเกินไปสามารถสร้างฟองอากาศจำนวนมากได้
- ความหนืดของเรซิ่น เรซิ่นที่มีความหนืดสูงจะทำให้ฟองอากาศลอยขึ้นสู่ผิวยากขึ้น
- การเทที่ไม่เหมาะสม การเทเรซิ่นจากที่สูงหรือการเทเร็วเกินไปก็สามารถทำให้เกิดฟองอากาศได้
การมีฟองอากาศในชิ้นงานเรซิ่นส่งผลเสียหลายประการ เช่น ทำให้ชิ้นงานไม่เรียบเนียน ดูเป็นโพรง ลดความใส เพิ่มความเปราะบาง และทำให้งานดูไม่เป็นมืออาชีพ ดังนั้นการ กำจัดฟองอากาศในเรซิ่น จึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่ง
ฟองอากาศเกิดขึ้นได้อย่างไร? ทำไมของเหลวถึงมีฟองอากาศได้?
ถึงมีฟองอากาศปนเปื้อนอยู่ได้? ฟองอากาศเหล่านี้มักเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุหลัก ๆ ครับ
- การผสมหรือกวน ในขั้นตอนการผสมส่วนผสมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการกวนด้วยมือหรือเครื่องจักร จะเกิดการนำพาอากาศเข้าไปในเนื้อของเหลว ทำให้เกิดฟองอากาศเล็ก ๆ จำนวนมาก
- การเทหรือบรรจุ เมื่อเทของเหลวจากภาชนะหนึ่งไปยังอีกภาชนะหนึ่ง อากาศสามารถถูกกักเก็บหรือสร้างฟองขึ้นมาได้ โดยเฉพาะเมื่อเทจากที่สูง หรือเทอย่างรวดเร็ว
- ปฏิกิริยาเคมี ในบางกรณี เช่น การผสมเรซิ่นกับสารเร่งแข็ง อาจเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ทำให้เกิดแก๊ส ซึ่งแก๊สเหล่านี้ก็จะกลายเป็นฟองอากาศในเนื้อเรซิ่นได้
การกักเก็บอากาศในเนื้อวัสดุ พื้นผิวที่ไม่เรียบของวัตถุที่นำไปเคลือบหรือหล่อ สามารถกักเก็บอากาศไว้ได้ เมื่อของเหลวไหลผ่าน อากาศที่ถูกกักไว้ก็จะกลายเป็นฟอง

ปัญหาที่ฟองอากาศสร้างขึ้นในของเหลว
ฟองอากาศเล็ก ๆ เหล่านี้อาจดูไม่เป็นอันตราย แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันสามารถสร้างปัญหาให้กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
ลดทอนความสวยงาม
ในงานเรซิ่น ฟองอากาศจะทำให้ชิ้นงานดูขุ่นมัว ไม่โปร่งใส และลดคุณค่าความสวยงามลงอย่างมาก
ลดความแข็งแรง
ฟองอากาศที่ติดอยู่ในเนื้อเรซิ่นจะสร้างช่องว่าง ทำให้โครงสร้างภายในไม่เป็นเนื้อเดียวกัน และลดความแข็งแรงของชิ้นงานลงอย่างมีนัยสำคัญ
ส่งผลต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์
ในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ครีม โลชั่น หรือแม้กระทั่งสี ฟองอากาศอาจทำให้เนื้อสัมผัสไม่เนียนสม่ำเสมอ ลดประสิทธิภาพการใช้งาน และอาจทำให้อายุการเก็บรักษาสั้นลง
เพิ่มความเสียหาย
ฟองอากาศอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความเสียหายอื่น ๆ เช่น การแตกร้าว หรือการหลุดลอกในระยะยาว
Resinsj ชุดถังสุญญากาศและปั๊มสุญญากาศ ตัวช่วยกำจัดฟองอากาศในเรซิ่นที่คุณวางใจ
ที่ Resinsj เราเข้าใจถึงปัญหาฟองอากาศเหล่านี้เป็นอย่างดี และได้จัดเตรียม ชุดถังสุญญากาศและปั๊มสุญญากาศ ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะ ชุดอุปกรณ์ของเรามีประสิทธิภาพสูงในการดูดไล่ฟองอากาศออกจากของเหลวได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับของเหลวที่มีความหนืดไม่สูงมากนัก คุณจะได้รับผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง คือของเหลวที่ไร้ฟองอากาศ เนียนใส และมีคุณภาพตามที่คุณต้องการ
อีพ็อกซี่เรซิ่น [Epoxy Resin] คืออะไร ทำไมถึงไม่มีกลิ่นฉุน
เรซิ่น คืออะไร ? ทำความรู้จักกันก่อนจะไปเริ่มทำงานเรซิ่น
จุดเด่นของชุดอุปกรณ์จาก Resinsj
- ประสิทธิภาพสูง สร้างสุญญากาศได้อย่างรวดเร็วและคงที่ ช่วยให้ฟองอากาศขยายตัวและลอยตัวขึ้นสู่ผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้งานง่าย ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถใช้งานได้
ทนทาน วัสดุคุณภาพสูง ทนทานต่อการใช้งาน และดูแลรักษาง่าย
วิธีการใช้งานถังสุญญากาศและปั๊มสุญญากาศอย่างละเอียด เพื่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
การใช้งานปั๊มสุญญากาศและถังสุญญากาศอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ รวมถึงป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากของเหลวเข้าไปในปั๊ม
1. การเตรียมปั๊มสุญญากาศ เติมน้ำมันปั๊มสุญญากาศ
- ตรวจสอบระดับน้ำมัน ก่อนการใช้งานครั้งแรก หรือหากไม่ได้ใช้งานมานาน ให้ตรวจสอบระดับน้ำมันปั๊มสุญญากาศ หากระดับต่ำกว่าขีดที่กำหนด (มักจะมีระบุไว้บนตัวปั๊ม) ให้เติมน้ำมันปั๊มสุญญากาศสำหรับปั๊มสุญญากาศโดยเฉพาะ (Vacuum Pump Oil) ห้ามใช้น้ำมันชนิดอื่นแทน!
- ตำแหน่งการเติม ช่องเติมน้ำมันอยู่ด้านบนของปั๊ม เปิดฝาเติมน้ำมัน(สีแดง)ออกอย่างระมัดระวัง
- ค่อยๆ เติม ค่อย ๆ เติมน้ำมันลงไปจนถึงระดับที่กำหนด (โดยดูจากหน้าต่างใสสำหรับดูระดับน้ำมันด้านหน้า) ระวังอย่าเติมมากเกินไป เพราะอาจทำให้ปั๊มทำงานผิดปกติได้
- ปิดฝาให้แน่น เมื่อเติมเสร็จแล้ว ให้ปิดฝาเติมน้ำมันให้แน่นสนิท
- ติดตั้งข้อต่อพิเศษสำหรับปั้มสุญญากาศ ควรใช้เทปพันเกลียวช่วยป้องกันการรั่วซึม
2. การเตรียมถังสุญญากาศ
- ตรวจสอบความสะอาด ตรวจสอบภายในถังสุญญากาศและฝาปิดว่าสะอาดและไม่มีสิ่งแปลกปลอม หากมี ให้ทำความสะอาดให้เรียบร้อย
- ต่อสายยาง เชื่อมต่อสายยางสุญญากาศจากปั๊มสุญญากาศเข้ากับช่องต่อบนถังสุญญากาศ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อแน่นหนา ไม่มีการรั่วซึม
3. การใช้งานถังสุญญากาศและปั๊มสุญญากาศ
- เตรียมภาชนะใส่ของเหลว เลือกภาชนะที่มีขนาดเหมาะสมกับปริมาณของเหลวที่คุณต้องการไล่ฟอง สิ่งสำคัญคือ ภาชนะนี้ต้องมีพื้นที่ว่างด้านบนเพียงพอ ให้ฟองอากาศที่ขยายตัวสามารถลอยขึ้นและแตกออกได้ (อ่านเพิ่มเติมในหัวข้อถัดไป)
- วางภาชนะในถังสุญญากาศ วางภาชนะที่ใส่ของเหลวไว้ในถังสุญญากาศ
- ปิดฝาถังสุญญากาศ ปิดฝาถังสุญญากาศให้แน่นสนิทเปิดวาล์วลมเข้าปั๊ม และปิดวาล์วระบายอากาศบนถังสุญญากาศ
- เปิดเครื่องปั๊มสุญญากาศ เปิดสวิตช์เครื่องปั๊มสุญญากาศ เครื่องจะเริ่มดูดอากาศออกจากถัง
- สังเกตเกจวัดแรงดัน สังเกตเกจวัดแรงดันบนถังสุญญากาศ แรงดันจะค่อย ๆ ลดลงสู่ระดับสุญญากาศ
- สังเกตฟองอากาศ คุณจะเริ่มเห็นฟองอากาศในของเหลวขยายตัวและลอยขึ้นสู่ผิวด้านบน เมื่อแรงดันลดลงถึงระดับหนึ่ง ฟองอากาศจะขยายตัวและแตกออกไป
- ระยะเวลาการดูด ระยะเวลาที่ใช้ในการดูดไล่ฟองขึ้นอยู่กับปริมาณและประเภทของของเหลว รวมถึงความหนืดของของเหลวนั้น ๆ โดยทั่วไป อาจใช้เวลา 5-15 นาที หรือจนกว่าคุณจะไม่เห็นฟองอากาศผุดขึ้นมาแล้ว **อาจจะสังเกตูการยุบตัวอย่างรวดเร็วของฟอกอากาศ จะแสดงว่าฟองอากาศ ได้ออกจากของเหลว เพียงพอแล้ว
- ปิดวาล์วและปิดปั๊ม เมื่อไล่ฟองอากาศเสร็จสิ้น ให้ปิดวาล์วที่เชื่อมต่อระหว่างถังกับปั๊ม (ถ้ามี) จากนั้นจึงปิดเครื่องปั๊มสุญญากาศ เพื่อรักษาระดับสุญญากาศในถังไว้
- คืนแรงดันอากาศ ค่อย ๆ เปิดวาล์วระบายอากาศบนถังสุญญากาศ เพื่อให้อากาศภายนอกไหลกลับเข้าไปในถัง แรงดันจะกลับสู่ปกติ
- นำภาชนะออก เมื่อแรงดันกลับสู่ปกติแล้ว ค่อย ๆ เปิดฝาถังสุญญากาศและนำภาชนะที่บรรจุของเหลวที่ไล่ฟองแล้วออกมา
เคล็ดลับสำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานและป้องกันของเหลวเข้าปั๊ม
- ใช้กับของเหลวที่เหมาะสม ปั๊มสุญญากาศและถังสุญญากาศมีประสิทธิภาพสูงสุดกับของเหลวที่มีความหนืดไม่สูงมากนัก ของเหลวที่มีความหนืดสูงมากอาจทำให้การไล่ฟองไม่สมบูรณ์ และอาจเป็นอันตรายต่อปั๊มได้
- อย่าให้ของเหลวถูกดูดเข้าไปในปั๊ม นี่คือข้อควรระวังที่สำคัญที่สุด! หากของเหลวถูกดูดเข้าไปในปั๊ม จะทำให้ปั๊มเสียหายอย่างรุนแรง สิ่งที่คุณต้องทำคือ
- ใช้ภาชนะที่มีขนาดเหมาะสม ภาชนะที่ใส่ของเหลวต้องมีพื้นที่ว่างด้านบนเพียงพอ เพื่อรองรับการขยายตัวของฟองอากาศ
- อย่าเติมของเหลวเต็มภาชนะ เติมของเหลวในภาชนะเพียง 1/2 หรือ 1/3 ของปริมาตรภาชนะ เพื่อให้มีพื้นที่ว่างให้ฟองอากาศขยายตัวและลอยขึ้นไปได้อย่างอิสระ
- ไม่ควรดูดนานเกินไป หากฟองอากาศผุดขึ้นมามากจนใกล้ถึงปากภาชนะ หรือมีแนวโน้มจะล้น ให้ปิดวาล์วหรือปิดปั๊มทันที
- บำรุงรักษาตามคู่มือ ปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานของปั๊มสุญญากาศในการเปลี่ยนน้ำมันและบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนด
ข้อมูลทางเทคนิคสำหรับการไล่ฟองในงานหล่อเรซิ่น
การไล่ฟองในงานหล่อเรซิ่นมีหลักการสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่สมบูรณ์แบบ
- การลอยตัวของฟองอากาศ เมื่ออยู่ในสภาวะสุญญากาศ ฟองอากาศจะขยายตัวและมีน้ำหนักเบาลง ทำให้ฟองอากาศลอยขึ้นตรง ๆ สู่ผิวด้านบนของของเหลวอย่างรวดเร็ว
- พื้นที่เผื่อการขยายตัวและแตกตัว เมื่อฟองอากาศลอยขึ้นมาถึงผิวน้ำ และแรงตึงผิวของของเหลวนั้นไม่สามารถต้านทานการขยายตัวของฟองอากาศได้อีกต่อไป ฟองอากาศจะ “แตกออกเปรี๊ยะ ๆ” ที่ผิวด้านบน นั่นหมายความว่า ภาชนะที่ใส่เรซิ่นสำหรับการไล่ฟองอากาศด้วยระบบสุญญากาศ ต้องมีพื้นที่ว่างด้านบนเหลือเฟือ เพื่อให้ฟองอากาศมีพื้นที่เพียงพอในการขยายตัว ลอยขึ้น และแตกออกไปอย่างสมบูรณ์ ปริมาณเรซิ่นที่เหมาะสมในภาชนะมักจะอยู่ที่ประมาณ 1/3 ถึง 1/2 ของความสูงภาชนะ
- ข้อควรระวังสำหรับชิ้นงานที่มีส่วนโค้งเว้าหรือซอกหลืบ แม้ว่าระบบสุญญากาศจะช่วยดึงอากาศออกจากเรซิ่นได้ดี แต่หากชิ้นงานที่กำลังหล่อมีส่วนโค้งเว้า ซอกหลืบ หรือรายละเอียดที่ซับซ้อนมาก ๆ อากาศอาจถูกกักอยู่ในบริเวณเหล่านั้นและไม่สามารถลอยขึ้นมาได้ง่ายนัก ในกรณีเหล่านี้ การออกแบบแม่พิมพ์โดยเผื่อข้อต่อระบายอากาศ (Vent) หรือช่องระบายอากาศเล็ก ๆ ในจุดที่อากาศมีแนวโน้มจะถูกกักไว้ จะช่วยให้การไล่ฟองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ไม่แน่ใจว่าของเหลวของคุณจะไล่ฟองได้สำเร็จไหม?
เรารู้ดีว่าของเหลวแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเรื่องความหนืด หากของเหลวหรือเนื้อครีมของคุณมีความหนืดสูงมาก การไล่ฟองด้วยระบบสุญญากาศอาจไม่สมบูรณ์ 100% หรืออาจต้องใช้เทคนิคและอุปกรณ์ที่แตกต่างออกไป
หากคุณไม่แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของคุณจะสามารถไล่ฟองด้วยชุดอุปกรณ์ของ Resinsj ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา! คุณสามารถส่งตัวอย่างของเหลวหรือเนื้อครีมของคุณมาให้ Resinsj เพื่อทำการทดสอบการไล่ฟองได้ เรายินดีให้คำแนะนำและช่วยเหลือเพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
คำถาม-คำตอบยอดฮิต ในการใช้ปั๊มและถังสุญญากาศไล่ฟองอากาศ
นี่คือชุดคำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบที่เข้าใจง่ายและเป็นมืออาชีพ เพื่อให้คุณทำงานกับครีมหรือของเหลวได้อย่างมั่นใจครับ
หมวดหมู่ หลักการทำงานและเทคนิค
ถาม ทำไมต้องใช้ระบบสุญญากาศเพื่อไล่ฟองอากาศ?
ตอบ หลักการคือการลดความดันอากาศในถังให้ต่ำลงอย่างมาก เมื่อความดันภายนอกของเหลวลดลง ฟองอากาศที่ถูกกักอยู่ภายในเนื้อครีมหรือของเหลวจะขยายตัวและลอยขึ้นสู่ผิวหน้าได้ง่ายและรวดเร็วกว่าสภาวะปกติ ทำให้เราได้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อเนียนสวยงาม ไม่มีฟองอากาศ และอาจช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้ด้วยเพราะออกซิเจนถูกกำจัดออกไป
ถาม ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการไล่ฟองอากาศ?
ตอบ ไม่มีคำตอบตายตัวครับ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น
- ความหนืดของผลิตภัณฑ์ ของเหลวที่หนืดมาก (เช่น ซิลิโคน, เรซิ่น) จะใช้เวลานานกว่าของเหลวที่ใส (เช่น น้ำมัน)
- ปริมาณของผลิตภัณฑ์ ปริมาณมากก็ใช้เวลานานขึ้น
- ประสิทธิภาพของปั๊ม ปั๊มที่ทำสุญญากาศได้ลึกและเร็วก็จะใช้เวลาน้อยลง
วิธีที่ดีที่สุดคือ สังเกตการณ์ด้วยสายตา เมื่อไม่เห็นฟองอากาศขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ให้คงสภาวะสุญญากาศไว้อีกสักครู่ (เช่น 5-15 นาที) เพื่อให้แน่ใจว่าฟองอากาศเล็กๆ ถูกกำจัดออกไปหมดแล้ว
ถาม ควรใส่ผลิตภัณฑ์ในภาชนะแค่ไหนก่อนนำเข้าถัง?
ตอบ ไม่ควรเกิน 1/3 ถึง 1/2 ของภาชนะ นี่เป็นเรื่องสำคัญมากครับ เพราะเมื่อเริ่มทำสุญญากาศ ของเหลวจะ “ฟู” หรือขยายตัวขึ้นจากฟองอากาศที่ขยายตัว หากใส่ผลิตภัณฑ์มากเกินไป อาจทำให้ล้นออกจากภาชนะและหกเลอะเทอะในถังสุญญากาศได้
หมวดหมู่ ไอระเหยและปัญหาที่พบบ่อย (คำถามจากคุณ)
ถาม ควรรับมือกับไอระเหยที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานได้อย่างไร?
ตอบ ไอระเหยที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ ไม่ได้มาจากตัวปั๊ม แต่มาจากผลิตภัณฑ์ของคุณเอง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหรือตัวทำละลาย (Solvent) ที่ระเหยง่าย
หลักการคือ เมื่อความดันลดลง “จุดเดือด” ของของเหลวก็จะลดลงตามไปด้วย นั่นหมายความว่าน้ำหรือส่วนผสมอื่นๆ อาจ “เดือด” หรือกลายเป็นไอได้แม้อยู่ในอุณหภูมิห้อง
วิธีรับมือ
- ค่อยๆ ลดความดัน อย่าเปิดวาล์วให้ปั๊มดูดอากาศออกเต็มที่ในครั้งเดียว ค่อยๆ เปิดวาล์วช้าๆ เพื่อให้ฟองอากาศค่อยๆ ลอยขึ้นมา หากเห็นว่าผลิตภัณฑ์เริ่มเดือดหรือฟูรุนแรง ให้ปิดวาล์วหรือปล่อยอากาศเข้าเล็กน้อยเพื่อให้สภาวะคงที่ แล้วจึงเริ่มทำสุญญากาศต่อ
- ทำงานในที่อากาศถ่ายเท ไอระเหยที่ออกมาจากท่อไอเสียของปั๊มคือไอจากผลิตภัณฑ์ของคุณ ควรทำงานในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกเสมอ
ถาม ไอระเหยจากปั๊มแวคคั่ม เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ตอบ นี่เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนที่พบบ่อยครับ ตัวปั๊มเองไม่ได้สร้างไอระเหย แต่ทำหน้าที่ “ดูด” และ “ปล่อย” ไอระเหยที่มาจากแหล่งอื่นครับ
ลำดับการเกิดเหตุการณ์เป็นดังนี้
- ต้นทาง ไอระเหยเกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์ของคุณในถังสุญญากาศ (ตามที่อธิบายข้างบน)
- การเดินทาง ปั๊มสุญญากาศดูดอากาศและ “ไอระเหย” เหล่านั้นออกจากถัง
- การปนเปื้อน (สำหรับปั๊มแบบใช้น้ำมัน) ไอระเหย (โดยเฉพาะไอน้ำ) จะเข้าไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่นในปั๊ม ทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพ (กลายเป็นสีขุ่นคล้ายนม) และลดประสิทธิภาพในการทำสุญญากาศลง
- ทางออก ปั๊มจะปล่อยอากาศและไอระเหยที่ดูดเข้ามาทั้งหมดออกทาง “ท่อไอเสีย” (Exhaust Port) ของปั๊ม ทำให้เราเห็นเป็นควันหรือไอออกมา ซึ่งก็คือไอจากผลิตภัณฑ์ของเรานั่นเอง
สรุปง่ายๆ คือ ปั๊มเป็นเพียง “ทางผ่าน” ของไอระเหย ไม่ใช่ “ผู้สร้าง” ครับ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการดักจับไอระเหยก่อนที่มันจะไปถึงตัวปั๊ม
ข้อควรระวังและความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด
- สวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน สวมแว่นตานิรภัยเสมอ ถังสุญญากาศอยู่ภายใต้แรงกดดันสูงมากจากภายนอก หากเกิดการแตกร้าวอาจเป็นอันตรายได้
- ตรวจสอบสภาพถัง ห้ามใช้ถังที่มีรอยร้าวหรือรอยบิ่น โดยเฉพาะถังที่เป็นแก้วหรืออะคริลิก
- ห้ามมองข้ามน้ำมันปั๊ม (สำหรับปั๊มแบบ Oil-Sealed)
- ตรวจสอบระดับน้ำมันให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดเสมอ
- เปลี่ยนถ่ายน้ำมันทันทีเมื่อเห็นว่าน้ำมันเริ่มขุ่นหรือเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่นเหมือนนม เพราะนั่นคือสัญญาณว่ามีไอน้ำเข้าไปปนเปื้อนแล้ว การฝืนใช้ต่อจะทำให้ปั๊มเสียหายอย่างรวดเร็ว
- การระบายอากาศ ไอเสียของปั๊มอาจมีละอองน้ำมันและไอระเหยจากผลิตภัณฑ์ของคุณปะปนอยู่ ควรตั้งปั๊มในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก โดยอาจจะต่อท่อลมและสายไฟยาวเข้ามาหาถังในห้องทำงานได้
- ปล่อยอากาศเข้าอย่างช้าๆ หลังจากทำงานเสร็จ เมื่อจะเปิดฝาถัง ให้ค่อยๆ เปิดวาล์วปล่อยอากาศเข้าช้าๆ การปล่อยให้อากาศไหลเข้าอย่างรวดเร็วอาจทำให้ผลิตภัณฑ์กระฉอกได้
การทำความเข้าใจหลักการและปฏิบัติตามข้อควรระวังเหล่านี้ จะช่วยให้คุณใช้งานระบบสุญญากาศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไปได้อีกนานครับ
ปัญหาที่มือใหม่มักจะเจอ
นอกจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น มือใหม่มักจะเจอปัญหาเหล่านี้
- เลือกปั๊มและห้องสุญญากาศไม่เหมาะสม การเลือกขนาดและกำลังดูดของปั๊มที่ไม่ตรงกับปริมาณงาน อาจทำให้ประสิทธิภาพไม่ดีพอ
- การดูแลรักษาอุปกรณ์ ละเลยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันปั๊มสุญญากาศ หรือการทำความสะอาดซีลยาง ทำให้ประสิทธิภาพลดลงและอุปกรณ์เสียหายได้ง่าย
- ไม่ได้เผื่อพื้นที่เรซิ่นในการขยายตัว ทำให้เรซิ่นล้นออกมาเลอะเทอะภายในห้องสุญญากาศ
- เปิดวาล์วอากาศเร็วเกินไป การปล่อยอากาศเข้าห้องสุญญากาศเร็วเกินไปอาจทำให้ฟองอากาศที่แตกไปแล้วกลับไปถูกดึงกลับเข้าสู่เนื้อเรซิ่นได้อีก
ด้วยเทคนิคและคำแนะนำจาก Resinsj คุณจะสามารถ กำจัดฟองอากาศในเรซิ่น และของเหลวต่างๆ ได้อย่างมืออาชีพ สร้างสรรค์ผลงานที่ไร้ที่ติ และเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงานของคุณได้อย่างแน่นอน! หากคุณกำลังมองหาระบบสุญญากาศที่มีคุณภาพ Resinsj มีผลิตภัณฑ์และคำแนะนำดีๆ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของคุณครับ
ผู้เขียน: พี่นิ้ง ResinSJ
พี่นิ้ง เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานเรซิ่น ซึ่งมากด้วยประสบการณ์งานคอมโพสิตทั้งหมด เช่น
งานไฟเบอร์กลาส งานคาร์บอน ไฟเบอร์ และงานซิลิโคน รวมทั้งการสร้างสรรค์ ผสมผสานวัตถุดิบ และเทคนิคเข้าด้วยกัน ซึ่งผ่านการเปิดคอร์สนับ 10 ครั้ง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี และมีคำขวัญที่ว่า "เฝ้าดูลูกค้าเติบโต"