10 อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำงานเรซิ่น
เนื่องจากในปัจจุบันเรซิ่นเริ่มเป็นที่นิยมเป็นวงกว้าง ทั้งในงานศิลปะ งานเครื่องเรือน งานตกแต่งบ้านเรือน งานเคลือบโต๊ะหินอ่อน ฯลฯ
วันนี้resinSj จะมาแนะนำ อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำงานเรซิ่น ไม่ว่าจะมือใหม่ หรือมือเก่าก็ต้องมีพื้นฐานในการทำงานเรซิ่นทั้งนั้น เรามาเริ่มอ่านบทความกัน เผื่อสร้างอาชีพ ต่อยอดไอเดีย การทำงาน
1. ชนิดเรซิ่นและสารเร่งปฏิกิริยา [อีพ็อกซี่เรซิ่น หรือ โพลีเอสเตอร์เรซิ่น]
เพราะว่า: เป็นหัวใจหลักของงานเรซิ่น หากไม่มีเรซิ่น ก็ไม่สามารถสร้างผลงานได้
ข้อดี:
- สามารถเลือกใช้ได้หลากหลายประเภท เช่น อีพ็อกซี่เรซิ่น โพลีเอสเตอร์เรซิ่น ตามความถนัด ระยะเวลาเซตตัว ความทนทาน และ งบประมาณที่ต้องการ
- มีความโปร่งใส ทนทาน และเหมาะกับงานหล่อ งานเคลือบ ขึ้นรูป หรืออื่นๆ
- สามารถผสมสีได้หลากหลาย ทั้งสีโปร่งแสง สีเรืองแสง ผงมุกเมทัลลิค สำหรับความสวยงามที่แปลก แตกต่าง ไม่มีใครเหมือน
- ทั้งยัง สามารถใส่ดอกไม้ หิน สิ่งของแทนใจ รูปภาพ ฯลฯ อื่นๆลงในงานเรซิ่น เพื่อความสร้างสรรชิ้นงานที่ไม่มีใครเหมือน เป็นงานชิ้นเดียวในโลก
- วิธีการเลือกชนิดเรซิ่น
2. เครื่องชั่งดิจิตอล
เพราะว่า: อัตราส่วนการผสมที่ถูกต้องส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของเรซิ่น
ข้อดี:
- ป้องกันการผสมผิดสัดส่วน ลดปัญหาการแข็งตัวผิดพลาด การแตกร้าว ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับชิ้นงาน ไม่ว่าจะเป็นความไม่แข็งแรงอย่างที่ควรจะเป็น
- ช่วยให้คำนวณปริมาณเรซิ่นได้อย่างแม่นยำ เป็นการประหยัด เพราะเราไม่ผสมเรซิ่นแล้วเหลือทิ้ง
3. ไม้คนหรือ ไม้พาย ทรงแบน
เพราะว่า: การกวนเรซิ่นให้เข้ากันเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การแข็งตัวเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หน้าสัมผัสที่กว้าง ( ไม่เหมือนไม้ทรงกลม ตะเกียบ ) จะช่วยให้อัตราส่วนผสมเข้ากันได้ดี
ข้อดี:
- ลดฟองอากาศที่เกิดขึ้นระหว่างการผสม
- ทำให้ส่วนผสมเนื้อเรียบและสม่ำเสมอ
4. แม่พิมพ์ซิลิโคน [มีให้เลือกหลากหลายแบบ สามารถขึ้นรูปแม่พิมพ์ด้วยตนเองด้วยน้ำยางซิลิโคนใสนางฟ้า]
เพราะว่า: เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้สามารถขึ้นรูปเรซิ่นตามต้องการได้
ข้อดี:
- มีความยืดหยุ่นสูง ดึงชิ้นงานออกได้ง่าย
- ทนต่อความร้อน ตอนเรซิ่นเซตตัว จะเกิดปฎิกิริยา จะมีความร้อนจากสารเคมี ยางซิลิโคนที่ดีจะไม่เสียหายง่าย ไม่เสื่อมไว จะถอดชิ้นงานออกจากยางได้ง่าย
5. เครื่องดูดสุญญากาศ ไล่ฟองอากาศในเรซิ่น ปืนไล่ฟองอากาศหรือน้ำยาไล่ฟองอากาศ
เพราะว่า: ฟองอากาศทำให้ชิ้นงานเสียหายเป็นอย่างมาก และ ทำให้ดูไม่สวยงาม ถึงขั้นที่สินค้านั้นไม่เป็นที่สนใจ ชิ้นงานที่ไม่มีฟองอากาศ ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน และลดความสูญเสียวัตถุดิบได้มาก
ข้อดี:
- เครื่องดูดสุญญากาศช่วยไล่ฟองอากาศในเนื้อเรซิ่นก่อนเทลงแม่พิมพ์
- ปืนไล่ฟองช่วยกำจัดฟองอากาศในผิวหน้าได้อย่างรวดเร็ว สำหรับอีพ็อกซี่เรซิ่นของเอสเจ เป็นชนิดไม่ไวไฟ สามารถใช้ปืนไฟไล่ฟองได้
- สเปรย์ไล่ฟองอากาศ เหมาะสำหรับงานที่ใส่ดอกไม้ หรือ งานที่ไม่สามารถโดนไฟได้ เพราะไฟจะทำลายความบอบบาง และความสวยงามของดอกไม้ หรือ งานชิ้นใหญ่ที่ไม่สามารถนำเข้าถังไล่ฟองอากาศได้
6. ถุงมือและหน้ากากกันสารเคมี
เพราะว่า: ถึงแม้อีพ็อกซี่เรซิ่น ของ resinSj จะไม่มีกลิ่นเหม็นฉุน แต่ไอระเหย ก็ไม่ควรสูดดม อีกทั้งเรซิ่นโพลีเอสเตอร์ที่มีกลิ่นเหม็นฉุน ยิ่งจะปล่อยไอระเหยที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย
ข้อดี:
- ปกป้องมือจากการสัมผัสสารเคมีโดยตรง
- หน้ากากช่วยกรองไอระเหย ป้องกันการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ
7. แปรงและลูกกลิ้งสำหรับงานเคลือบ
เพราะว่า: จำเป็นสำหรับการเคลือบพื้นผิวเรซิ่นให้เรียบเนียน
ข้อดี:
- ช่วยให้การเคลือบเรซิ่นทำได้ทั่วถึง ถึงแม้จะมีขนาดหน้างานกว้างใหญ่เพียงไร การเลือกเครื่องมือที่เหมาะ จะช่วยให้ทำงานได้ทันก่อนเรซิ่นจะเซตตัว และป้องกันการเกิดฟองอากาศ
- ใช้ได้ทั้งงานเคลือบไม้ ไฟเบอร์กลาส หรือชิ้นงานอื่นๆ
5สิ่งควรรู้ ก่อนเริ่มใช้อีพ็อกซี่เรซิ่น
15ขั้นตอน สอนทำงานเรซิ่น สำหรับมือใหม่ ทำเรซิ่นเป็นในบทความเดียว
8. กระดาษทราย
เพราะว่า: ทำให้ผิวงานเรซิ่นเรียบและเงางาม
ข้อดี:
- ปรับแต่งพื้นผิวให้เรียบเนียน พร้อมเคลือบเงาหรือทำสี
- ช่วยให้ชิ้นงานมีคุณภาพสูงขึ้น ดูเป็นมืออาชีพ
9. น้ำยาถอดแบบ wax mold release , แว๊กน้ำชนิดใส
เพราะว่า: ป้องกันไม่ให้เรซิ่นติดกับแม่พิมพ์ โดยเฉพาะแม่พิมพ์ไฟเบอร์กล๊าส
ข้อดี:
- ลดความเสี่ยงที่แม่พิมพ์จะเสียหาย
- ทำให้ถอดชิ้นงานออกได้ง่าย ลดการเสียเวลาและวัสดุ
10. สีและผงมุก ผงกลิตเตอร์ สำหรับตกแต่งเรซิ่น
เพราะว่า: เพิ่มความสวยงามให้ชิ้นงานเรซิ่น
ข้อดี:
- ทำให้เรซิ่นมีสีสันหรือลวดลายที่หลากหลาย
- สามารถใช้ผงมุก ผงโลหะ หรือกากเพชรเพื่อเพิ่มเอฟเฟกต์พิเศษ ให้ได้ชิ้นงานที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานกับเรซิ่น เพราะช่วยให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หากทุกคนเป็นมือใหม่ การเริ่มต้นด้วยอุปกรณ์พื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้การทำงานราบรื่นขึ้น และสำหรับมืออาชีพ การมีอุปกรณ์ครบถ้วนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดในการผลิต
วิธีเลือกอุปกรณ์ หากมีงบจำกัด อะไรจำเป็นมากที่สุด 3 ลำดับ
1. โพลีเอสเตอร์เรซิ่น หรือ อีพ็อกซี่เรซิ่น
🔹 ทำไมจำเป็นที่สุด?
- เป็นหัวใจของงานเรซิ่น ถ้าไม่มี ก็ไม่สามารถเริ่มงานได้
- เลือกเรซิ่นที่เหมาะกับงาน เช่น อีพ็อกซี่เรซิ่นสำหรับงานเคลือบและงานหล่อใส
🔹 วิธีเลือกในงบจำกัด
✅ เลือกขนาดที่เหมาะกับงาน เช่น เริ่มจากชุดเล็ก 200-1000 กรัมก่อน
✅ เลือกเรซิ่นที่มีคุณภาพดี แม้ราคาสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ช่วยลดปัญหาแข็งตัวผิดพลาด อย่างเช่น เรซิ่นของเราเป็นต้น ราคามาตรฐาน แต่คุณภาพดีมากๆ
2. เครื่องชั่งดิจิตอล
🔹 ทำไมต้องมี?
- การผสมเรซิ่นต้องใช้สัดส่วนที่แม่นยำ หากผิดพลาด เรซิ่นอาจไม่แข็งตัว หรือเสียหาย
- การตวงด้วยตาชั่งดิจิตอลช่วยให้ได้อัตราส่วนที่ถูกต้อง 100%
🔹 วิธีเลือกในงบจำกัด
✅ ใช้ ถ้วยตวงพลาสติกแบบใช้ซ้ำ แทนถ้วยตวงแบบใช้ครั้งเดียว
✅ เครื่องชั่งดิจิตอลราคาถูก (200-500 บาท) ก็เพียงพอสำหรับการตวงน้ำหนักเรซิ่น
3. ถุงมือและหน้ากากกันสารเคมี
🔹 ทำไมสำคัญ?
- เรซิ่นบางชนิดอาจมีไอระเหยที่เป็นอันตราย หากไม่มีการป้องกัน อาจระคายเคืองผิวหนังและระบบหายใจ
- ถุงมือช่วยป้องกันมือจากสารเคมีที่อาจติดผิวหนังและล้างออกยาก
🔹 วิธีเลือกในงบจำกัด
✅ ใช้ ถุงมือไนไตรล์ แทนถุงมือยางทั่วไป เพราะทนต่อสารเคมีได้ดีขึ้น
✅ หน้ากากกันฝุ่นระดับ N95 ใช้แทนหน้ากากกรองไอระเหยได้ในกรณีที่เรซิ่นไม่มีกลิ่นฉุนมาก
สรุป
หากต้องเลือกอุปกรณ์ที่จำเป็นสุดในงบจำกัด ต้องเริ่มจากของที่ทำให้ทุกคนทำงานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยก่อน ซึ่งทุกสินค้าที่กล่าวมา ทางร้านเรามีจำหน่ายทั้งหมด สามารถเลือกซื้อได้ตามชอบได้เลย
1️⃣ เรซิ่นและสารเร่งปฏิกิริยา → หัวใจของงาน
2️⃣ ถ้วยผสมและเครื่องชั่งดิจิตอล → ช่วยให้การผสมแม่นยำ
3️⃣ ถุงมือและหน้ากากกันสารเคมี → ป้องกันอันตรายระหว่างการทำงาน
หากทุกคนต้องการลดต้นทุนมากขึ้น อาจเริ่มจาก ชุดเรซิ่นขนาดเล็ก + เครื่องชั่งราคาประหยัด + ถุงมือ
วิธีเลือก อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำงานเรซิ่น
1. เลือกตามประเภทของงานเรซิ่น เลือกตามคุณสมบัติที่ต้องการจากงาน
📌 งานหล่อ (Casting) → ต้องการเรซิ่นที่ไหลลื่นดี หล่อหนาได้ ไม่แตกร้าวง่ายและอุปกรณ์ช่วยไล่ฟองอากาศ
** งานหล่อชิ้นใหญ่ ( FRP ) —ต้องการน้ำหนักเบา หรือ ชิ้นที่เน้นสัดส่วน มุม ทรงเรขาคณิต ที่ต้องระวังการบิดงอ เสียทรง ชิ้นงานไฟเบอร์กล๊าสจะเบา และ ให้ตัวได้ ไม่บิดรูปเสียทรง
📌 งานเคลือบ (Coating) → ควรใช้เรซิ่นที่มีความหนืดสูง โดยใช้แปรงหรือลูกกลิ้งช่วยในการทำงาน
📌 งานขึ้นรูปแม่พิมพ์ (Molding) → ต้องมีแม่พิมพ์ซิลิโคนสำหรับงานที่มีรายละเอียดเยอะ หรือแม่พิมพ์ไฟเบอร์กล๊าส สำหรับงานที่ต้องการให้อยู่ทรง ไม่เสียทรง และแว๊กถอดแบบคุณภาพสูง ถอดงานง่าย ใช้แล้วไม่เกิดปัญหาตอนเก็บงานขั้นตอนสุดท้าย
📌 งานทำเครื่องประดับ (Jewelry Making) → ควรใช้เรซิ่นโปร่งใส สำหรับงานจิวเวลรี่เฉพาะ และสีผสมเรซิ่นคุณภาพสูง
💡 วิธีเลือก:
- ถ้าทุกคนทำงานขนาดเล็ก → ใช้อุปกรณ์พื้นฐาน เช่น เครื่องชั่ง ถุงมือ แม่พิมพ์เล็ก
- ถ้าทำงานขนาดใหญ่ → ควรลงทุนในเครื่องกวนเรซิ่น ถังไล่ฟองอากาศ ปืนไล่ฟองอากาศ เป็นต้น
2. เลือกตามคุณภาพและความคุ้มค่า
✅ อุปกรณ์ที่ควรลงทุนมากขึ้น
🔹 เรซิ่นและสารเร่งปฏิกิริยา → เลือกแบรนด์ที่มีรีวิวดี ป้องกันปัญหาการแข็งตัวผิดพลาด อย่างแบรนด์ Resin SJ เป็นต้น
🔹 เครื่องชั่งดิจิตอล → เลือกที่ละเอียดระดับ 1 กรัม เพื่อความแม่นยำ
🔹 หน้ากากกรองไอระเหย → หากทำงานบ่อยๆ ควรใช้หน้ากากที่มีไส้กรองเปลี่ยนได้
💰 อุปกรณ์ที่สามารถประหยัดได้:
🔹 ถ้วยผสม → ใช้พลาสติกแข็งแบบนำกลับมาใช้ซ้ำได้ แทนถ้วยใช้ครั้งเดียว เมื่อเรซิ่นรอบก่อนแห้ง เราก็นำก้อนเรซิ่นที่แห้งออก แล้วใช้แก้วนั้นซ้ำได้
🔹 ไม้คนเรซิ่น → ใช้แท่งแบนๆ ทรงไม้ไอติมหรือไม้พายแทนเครื่องกวนเรซิ่นไฟฟ้า
🔹 แม่พิมพ์ซิลิโคน → หากเป็นมือใหม่ เลือกแม่พิมพ์ราคาประหยัดก่อน
3. เลือกตามงบประมาณที่มี
🔹 งบน้อย (1,000 – 2,000 บาท) → เริ่มจากอุปกรณ์พื้นฐาน ได้แก่
✅ เรซิ่น + สารเร่งปฏิกิริยา
✅ ถ้วยผสม + เครื่องชั่งดิจิตอล
✅ ถุงมือไนไตรกันสารเคมี + หน้ากาก N95
✅ แม่พิมพ์ซิลิโคนขนาดเล็ก
🔹 งบปานกลาง (2,000 – 5,000 บาท) → เพิ่มอุปกรณ์ที่ช่วยให้งานง่ายขึ้น
✅ ปืนไล่ฟองอากาศ
✅ wax mold release
✅ สีผสมเรซิ่นและวัสดุตกแต่ง
🔹 งบสูง (5,000+ บาท) → ลงทุนกับอุปกรณ์คุณภาพสูง
✅ เครื่องดูดสุญญากาศ ถังดึงดัน
✅ เครื่องขัดเงา
✅ แม่พิมพ์ซิลิโคนแบบพรีเมียม ที่ใส มองเห็นชิ้นงานด้านใน
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำงานเรซิ่น
ผู้เขียน: พี่นิ้ง ResinSJ
พี่นิ้ง เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานเรซิ่น ซึ่งมากด้วยประสบการณ์งานคอมโพสิตทั้งหมด เช่น
งานไฟเบอร์กลาส งานคาร์บอน ไฟเบอร์ และงานซิลิโคน รวมทั้งการสร้างสรรค์ ผสมผสานวัตถุดิบ และเทคนิคเข้าด้วยกัน ซึ่งผ่านการเปิดคอร์สนับ 10 ครั้ง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี และมีคำขวัญที่ว่า "เฝ้าดูลูกค้าเติบโต"