การสร้าง Art Toy เป็นงานศิลปะที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และความละเอียดอ่อนในการทำงาน สำหรับมือใหม่ที่สนใจเข้าสู่วงการนี้ การรู้จักและเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในการทำ Art Toy ที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมั่นใจ
เลือกอ่านตามหัวข้อได้เลยครับ :))
1. ยางซิลิโคน เพื่อทำ Art toy ตัวต่อๆไป ให้เหมือนกับตัวต้นแบบ
การใช้ยางซิลิโคนในการทำ Art toy ตัวต่อๆ ไปให้เหมือนกับตัวต้นแบบมีข้อดีหลายประการ ดังนี้
1. ความยืดหยุ่นและทนทาน
ยางซิลิโคนควรมีความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนรูปได้ดี ทำให้สามารถทำแม่พิมพ์ที่มีรายละเอียดซับซ้อนได้โดยไม่เสียหายง่าย และมีอายุการใช้งานยาวนานนนนน ถอดชิ้นงานได้หลายครั้ง มีจำนวนครั้งในการถอดแบบเยอะ
2. การเก็บรายละเอียดที่แม่นยำ หรือเก็บขอบ เก็บมุมได้ดี
ยางซิลิโคนสามารถเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของต้นแบบได้อย่างแม่นยำ ทำให้ Art toy ที่ผลิตออกมามีความคล้ายคลึงกับต้นแบบอย่างมากที่สุดถึง 99 %
3. การถอดชิ้นงานที่ง่ายแสนง่าย
เนื่องจากยางซิลิโคนมีคุณสมบัติที่ไม่เกาะติดกับวัสดุอื่น ทำให้การถอดชิ้นงานออกจากแม่พิมพ์ทำได้ง่าย ไม่ทำให้ชิ้นงานเสียหาย แต่ก็ขึ้นอยู่กับการแบ่งพิมพ์ด้วย อาจทำเป็นโมลด์ประกบ หรือ โมลด์ถลก ขึ้นอยู่กับท่วงท่าของชิ้นงานแต่ละชิ้น การออกแบบart toy ควรคำนึงถึงประเด็นนี้บ้าง
4. ความทนทานต่ออุณหภูมิ
ยางซิลิโคนสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสูงและต่ำได้ดี ทำให้สามารถใช้งานในกระบวนการผลิตที่มีการใช้ความร้อนได้ โดยไม่เกิดความเสียหาย เพราะเรซิ่นเวลาเซตตัว เปลี่ยนจากของเหลวเป็นเจลลี่เป็นของแข็ง ปฎิกิริยานี้จะเกิดความร้อน
5. การใช้งานซ้ำ
แม่พิมพ์ยางซิลิโคนสามารถใช้งานซ้ำได้หลายครั้ง ทำให้ลดต้นทุนในการผลิต Art toy ในระยะยาว // เหมาะสำหรับมือใหม่ที่จะทำขายเลยทีเดียว
6. การไล่ฟองอากาศ
การที่ฟองอากาศในของเหลวเกิดขึ้นนั้น มาจากการเทส่วนผสม การขยับคนA B ให้เข้ากัน มียางซิลิโคนตัวใหม่ ที่แก้ปัญหาเรื่องฟองอากาศได้ดี มาแนะนำ
การใช้ยางซิลิโคนในการทำแม่พิมพ์สำหรับผลิต Art toy จึงเป็นตัวเลือกที่ดีและมีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้การผลิตมีคุณภาพและความละเอียดสูงตามที่ต้องการ
2.เรซิ่น สำหรับหล่อชิ้นงาน
การเลือกเรซิ่นสำหรับการทำArt Toy นั้น จะต้องคำนึงถึง รูปแบบของชิ้นงาน เช่นผิว/ความแข็ง/อ่อน ความใส/ทึบแสง ราคา ทั้งหมดมีส่วนสำคัญในการเลือก โดนเรซิ่นจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ
1. อีพ็อกซี่เรซิ่น จะเป็นเรซิ่นที่มีลักษณะเด่นคือ มี 2 part คือ มีA และB โดยเมื่อจะใช้งานเพียงแค่นำ AและB มาผสมกันตามอัตราส่วนที่ผู้ผลิตกำหนด คนให้เข้ากัน ก็พร้อมนำไปใช้งาน ข้อดีคือไม่มีกลิ่นฉุน ให้ความใส การหดตัวน้อย ใช้งานง่าย
2. โพลีเอสเตอร์เรซิ่น มีลักษณะเด่น คือ จะประกอบด้วย 3 part 1.เรซิ่น 2.โคบอล 3.ตัวเร่งแข็ง จะต้องผสม 1+2 คนให้เข้ากัน แล้วจึง+3 เมื่อต้องการใช้งาน ตามอัตราส่วนของผู้ผลิตแนะนำ โพลีเอสเตอร์เรซิ่น จะมีกลิ่นฉุน ส่วนผสมจะยุ่งยากหน่อย ให้ผิวไม่เรียบลื่นเงา การหดตัวสูง แต่มีข้อดีคือ ราคาถูก และสามารถเร่งเวลาให้แข็งได้ตามใจ
3. สีผสมเรซิ่น ใช้เพื่อตกแต่งArt Toy เมื่อแห้งสมบูรณ์
การใช้สีผสมเรซิ่นเพื่อตกแต่ง Art Toy มีข้อดีหลายประการ ดังนี้
1. สีสันสดใสและหลากหลาย
สีผสมเรซิ่นให้สีสันที่สดใสและหลากหลาย ทำให้ Art Toy มีความโดดเด่น น่าสนใจมากขึ้น สามารถสร้างสรรค์งานศิลปะที่มีชีวิตชีวาได้
2. ความคงทนและยาวนาน
เมื่อแห้งสมบูรณ์ สีผสมเรซิ่นจะมีความทนทานสูง ไม่ซีดจางหรือหลุดลอกง่าย ทำให้ Art Toy คงความสวยงามได้ยาวนาน
3. ความเงางาม
สีผสมเรซิ่นมักจะมีความเงางาม ทำให้ผิวของ Art Toy ดูมีมิติและความเป็นเอกลักษณ์ เพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับงานศิลปะ
4. สามารถผสมสีได้
สามารถผสมสีเรซิ่นเพื่อสร้างสีใหม่หรือเฉดสีที่ต้องการได้ง่าย ทำให้การออกแบบและตกแต่ง Art Toy มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ตามที่ต้องการ
5. ทนต่อสารเคมีและสภาพแวดล้อม
สีผสมเรซิ่นมักมีความทนทานต่อสารเคมีและสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น แสงแดด ความชื้น ทำให้ Art Toy ไม่เสียหายง่ายเมื่อถูกเก็บหรือแสดงในสถานที่ต่างๆ
6. สามารถใช้ร่วมกับวัสดุอื่นได้
สีผสมเรซิ่นสามารถใช้ร่วมกับวัสดุอื่นได้อย่างดี เช่น กลิตเตอร์ หรือสีโลหะ ทำให้สามารถสร้างเอฟเฟกต์พิเศษต่างๆ เพิ่มความสวยงามและน่าสนใจให้กับ Art Toy
7. ความสามารถในการเคลือบผิว
นอกจากการใช้เพื่อแต่งสี สีผสมเรซิ่นยังสามารถใช้เพื่อเคลือบผิว Art Toy ให้มีความทนทานต่อการขีดข่วนและความเสียหายจากการใช้งานได้
การใช้สีผสมเรซิ่นเพื่อตกแต่ง Art Toy จึงเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มความสวยงาม ความคงทน และความเป็นเอกลักษณ์ให้กับผลงานศิลปะของคุณ
การเลือกสีผสมเรซิ่นเพื่อตกแต่ง Art Toy
มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและตรงตามความต้องการ ดังนี้
1. ประเภทของสีเรซิ่น
- สีโปร่งแสง (Translucent) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการให้แสงสามารถส่องผ่านได้ เช่น งานที่ต้องการเอฟเฟกต์โปร่งใส
- สีทึบแสง (Opaque) ให้สีที่เข้มข้นและไม่สามารถมองทะลุผ่านได้ เหมาะสำหรับการแต่งสีที่ต้องการความเข้มของสี
- สีมุก (Pearlescent) ให้เอฟเฟกต์มุกที่เงางาม เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความหรูหราและความเงางาม
- สีเมทัลลิก (Metallic) ให้เอฟเฟกต์เหมือนโลหะ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเงางามแบบโลหะ
2. คุณสมบัติของสี
- ความคงทนของสี
เลือกสีที่มีความคงทนต่อแสงแดดและไม่ซีดจางง่าย
- ความทนทานต่อสารเคมี
สีควรทนทานต่อสารเคมีเพื่อป้องกันการกัดกร่อนและการเสียหาย
3. ความสะดวกในการใช้งาน
- การผสมสี
- สีผสมเรซิ่นควรผสมได้ง่ายและไม่เกิดฟองอากาศ
- ระยะเวลาในการแห้ง
- เลือกสีที่มีระยะเวลาในการแห้งที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
4. ความเข้ากันได้กับวัสดุ
- ความเข้ากันได้กับเรซิ่นชนิดต่างๆ
- ตรวจสอบว่าสีที่เลือกสามารถใช้งานร่วมกับเรซิ่นที่คุณใช้ในการทำ Art Toy ได้ดี
- การยึดเกาะ
- สีควรยึดเกาะกับพื้นผิวของ Art Toy ได้ดี ไม่หลุดลอกง่าย
5. การทดสอบก่อนใช้งานจริง
- การทดสอบสี
- ก่อนใช้งานจริง ควรทดลองผสมสีและทดลองลงบนพื้นผิวเล็กๆ เพื่อดูผลลัพธ์ว่าตรงกับความต้องการหรือไม่
วิธีการเลือกสีผสมเรซิ่น
- ระบุประเภทของสีที่ต้องการ (โปร่งแสง, ทึบแสง, มุก, เมทัลลิก)
- อ่านรีวิวและสอบถามคำแนะนำจากผู้ใช้งานจริง
- เลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพและมีการรับรองมาตรฐาน
- ทดลองสีและดูผลลัพธ์ก่อนนำมาใช้ในงานจริง
การเลือกสีผสมเรซิ่นที่ดีจะช่วยให้ Art Toy ของคุณมีความสวยงามและคงทนตามที่ต้องการ
4. อะซิโตน ใช้เพื่อเช็ดล้าง ทำความสะอาด
อะซิโตน (Acetone) เป็นสารเคมีที่นิยมใช้ในการเช็ดล้างและทำความสะอาดในงานหลายประเภท โดยมีข้อดีหลายประการดังนี้
1. ประสิทธิภาพในการละลาย
- ละลายสารเคมีหลายชนิด
- อะซิโตนสามารถละลายสารเคมีหลายประเภท เช่น น้ำมัน จาระบี สี และหมึก ทำให้มันเป็นตัวทำละลายที่มีประสิทธิภาพสูง
- ขจัดคราบเรซิ่นและกาว
- สามารถขจัดคราบเรซิ่น กาว และสารยึดติดต่างๆ ได้ดี
2. การระเหยเร็ว
- แห้งเร็ว
- อะซิโตนระเหยได้เร็วมาก ทำให้พื้นผิวที่ถูกทำความสะอาดแห้งเร็ว ไม่ทิ้งคราบหรือความชื้นไว้
- ลดเวลาทำงาน
- การระเหยที่รวดเร็วช่วยลดเวลาที่ต้องรอให้พื้นผิวแห้ง ทำให้งานต่อเนื่องได้เร็วขึ้น
3. ประโยชน์ในการเตรียมพื้นผิว
- เตรียมพื้นผิวก่อนการทาสี
- อะซิโตนสามารถใช้ในการทำความสะอาดพื้นผิวก่อนการทาสีหรือตกแต่ง เพื่อให้สีติดทนนานและเรียบเนียน
- ขจัดคราบมัน
- ขจัดคราบมันและคราบสกปรกต่างๆ บนพื้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้พื้นผิวสะอาดและพร้อมสำหรับการทำงานต่อไป
4. การใช้งานที่หลากหลาย
- ทำความสะอาดเครื่องมือ
- ใช้ในการทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เปื้อนสารเคมี สี หรือกาว
- ล้างสีเล็บ
- เป็นส่วนประกอบหลักในน้ำยาล้างสีเล็บ ช่วยล้างสีเล็บออกได้อย่างรวดเร็ว
5. ราคาไม่แพงและหาซื้อง่าย
- ราคาถูก
- อะซิโตนมีราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายวัสดุเคมี ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง และร้านขายของชำ
- มีให้เลือกหลายขนาด
- สามารถหาซื้อได้ในขนาดและปริมาณที่หลากหลายตามความต้องการใช้งาน
ข้อควรระวังในการใช้อะซิโตน
- สารไวไฟ
- อะซิโตนเป็นสารไวไฟ ควรใช้งานในที่ที่มีการระบายอากาศดีและห่างไกลจากแหล่งความร้อนหรือประกายไฟ
- ระคายเคือง
- อะซิโตนสามารถทำให้ผิวหนังแห้งและระคายเคืองได้ ควรสวมถุงมือและหน้ากากป้องกันเมื่อใช้งาน
- ผลต่อพลาสติก
- อะซิโตนสามารถละลายหรือทำให้พลาสติกบางชนิดเสียหายได้ ควรทดสอบบนพื้นที่เล็กๆ ก่อนใช้งาน
อะซิโตนเป็นตัวทำละลายที่มีประสิทธิภาพสูงในการทำความสะอาดและเตรียมพื้นผิว แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานและป้องกันความเสียหายต่อวัสดุ
5. ถุงมือไนโตรเจน เพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรง
การใช้ถุงมือไนไตร (Nitrile gloves) เพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรงกับสารเคมีหรือวัสดุอันตรายมีข้อดีหลายประการ ดังนี้
1. มีความทนทานต่อสารเคมี
- ทนทานต่อสารเคมีหลากหลาย
- ถุงมือไนไตรมีความทนทานต่อสารเคมีหลายประเภท เช่น กรด เบส น้ำมัน และสารละลายอินทรีย์ รวมถึงอะซิโตน ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี
- ป้องกันการซึมผ่าน
- ถุงมือไนไตรสามารถป้องกันการซึมผ่านของสารเคมีได้ดีกว่าถุงมือยางธรรมชาติหลายเท่า
2. ความทนทานและยืดหยุ่น
- ทนต่อการฉีกขาดและเจาะ
- ถุงมือไนไตรมีความทนทานต่อการฉีกขาดและการเจาะ ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับถุงมือยางธรรมชาติหรือถุงมือไวนิล
- ยืดหยุ่นและสวมใส่สบาย
- แม้ว่าจะมีความทนทานสูง แต่ถุงมือไนไตรยังคงมีความยืดหยุ่นและสวมใส่สบาย ไม่ทำให้มือรู้สึกอึดอัด
3. การป้องกันสารก่อภูมิแพ้
- ปราศจากสารลาเท็กซ์
- ถุงมือไนไตรทำจากวัสดุสังเคราะห์ จึงไม่มีโปรตีนจากลาเท็กซ์ที่สามารถก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ลาเท็กซ์
4. ความสามารถในการสัมผัสและการควบคุม
- ความรู้สึกสัมผัสที่ดี
- ถุงมือไนไตรบางรุ่นถูกออกแบบให้มีความบางและยืดหยุ่น ทำให้ผู้ใช้ยังคงมีความรู้สึกสัมผัสที่ดี สามารถทำงานที่ต้องการความแม่นยำได้
- การยึดเกาะที่ดี
- พื้นผิวของถุงมือไนไตรมักจะมีการออกแบบเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ ทำให้สามารถจับสิ่งของได้มั่นคง
5. ความหลากหลายของการใช้งาน
- การใช้งานในหลายอุตสาหกรรม
- ถุงมือไนไตรใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การแพทย์ การทำความสะอาด การประกอบอาหาร การทำงานกับสารเคมี และงานวิศวกรรม
- การป้องกันเชื้อโรค
- นอกจากการป้องกันสารเคมี ถุงมือไนไตรยังใช้ในการป้องกันการติดเชื้อและการแพร่กระจายของเชื้อโรคในงานทางการแพทย์และสุขภาพ
ข้อควรระวังในการใช้ถุงมือไนไตร
- การตรวจสอบก่อนใช้
- ควรตรวจสอบถุงมือก่อนใช้เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรอยฉีกขาดหรือเสียหาย
- การทิ้งอย่างถูกวิธี
- ถุงมือที่ใช้แล้วควรทิ้งอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะถ้าใช้กับสารเคมีอันตรายหรือสารที่อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ
การใช้ถุงมือไนไตรเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการสัมผัสโดยตรงกับสารเคมีและวัสดุอันตราย ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการทำงาน
6. ถังแวคคั่ม (ถังสุญญากาศ) เพื่อไล่ฟองอากาศให้หายไปจากตัว Art toy
การใช้ถังแวคคั่ม (ถังสุญญากาศ) เพื่อไล่ฟองอากาศออกจาก Art Toy มีข้อดีหลายประการที่ช่วยให้ผลงานมีคุณภาพสูงขึ้น ดังนี้
1. กำจัดฟองอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดฟองอากาศในเรซิ่น
- เมื่อใช้เรซิ่นในการทำ Art Toy ฟองอากาศสามารถก่อตัวขึ้นในกระบวนการผสมหรือเทเรซิ่นลงในแม่พิมพ์ การใช้ถังแวคคั่มช่วยกำจัดฟองอากาศที่ติดอยู่ในเรซิ่น ทำให้ชิ้นงานมีความเรียบเนียนและไม่มีฟองอากาศ
- เพิ่มความโปร่งใส
- สำหรับ Art Toy ที่ต้องการความโปร่งใส เช่น เรซิ่นโปร่งแสง การกำจัดฟองอากาศจะทำให้ชิ้นงานดูใสและมีคุณภาพสูงขึ้น
2. เพิ่มความแข็งแรงและทนทาน
- โครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น
- ฟองอากาศที่ติดอยู่ในเรซิ่นหรือวัสดุอื่นๆ สามารถทำให้ชิ้นงานมีจุดอ่อนที่สามารถแตกหักได้ง่าย การใช้ถังแวคคั่มช่วยให้ชิ้นงานมีโครงสร้างที่แน่นและแข็งแรงมากขึ้น
- ลดโอกาสการแตกร้าว
- การกำจัดฟองอากาศช่วยลดโอกาสที่ชิ้นงานจะแตกร้าวหรือเสียหายจากการใช้งานหรือการเก็บรักษา
3. ปรับปรุงคุณภาพพื้นผิว
- ผิวที่เรียบเนียน
- การกำจัดฟองอากาศทำให้ผิวของ Art Toy เรียบเนียนและสวยงาม ไม่มีรอยฟองอากาศที่อาจทำให้ผลงานดูไม่สม่ำเสมอ
- เพิ่มความละเอียดของรายละเอียด
- ฟองอากาศสามารถทำให้รายละเอียดของชิ้นงานไม่ชัดเจน การใช้ถังแวคคั่มช่วยให้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของชิ้นงานยังคงชัดเจนและสมบูรณ์
4. ประหยัดเวลาและแรงงาน
- ลดความจำเป็นในการแก้ไขชิ้นงาน
- การกำจัดฟองอากาศในขั้นตอนแรกของการผลิตช่วยลดความจำเป็นในการแก้ไขหรือปรับปรุงชิ้นงานในภายหลัง เช่น การขัดหรือตกแต่งเพิ่มเติม
- เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
- ช่วยให้กระบวนการผลิตรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาในการแก้ไขฟองอากาศที่เกิดขึ้นในขั้นตอนหลัง
5. เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
- ทำให้ผลงานมีคุณภาพที่สูงขึ้น
- การใช้ถังแวคคั่มช่วยให้คุณสามารถผลิต Art Toy ที่มีคุณภาพสูงและน่าพอใจมากขึ้น ทำให้ลูกค้าประทับใจและมีความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์
- ภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์
- ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์และเพิ่มความน่าเชื่อถือในตลาด
วิธีการใช้ถังดึงดัน
- ผสมเรซิ่นและตัวแข็งให้เข้ากัน ตามคำแนะนำของผู้ผลิต
- เทเรซิ่นที่ผสมแล้วลงใน ภาชนะที่เหมาะสมคนให้เข้ากัน เปิดฝาถังและวางเรซิ่นที่ผสมแล้วลงในถังพร้อมปิดฝาแวคคั่ม
- เริ่มกระบวนการแวคคั่ม ปิดฝาถังและเปิดเครื่องแวคคั่มเพื่อเริ่มกำจัดฟองอากาศ
- สังเกตฟองอากาศ ฟองอากาศจะขึ้นมาที่ผิวน้ำเรซิ่นและแตกออก
- นำเรซิ่นออกจากถังแวคคั่ม เมื่อฟองอากาศหมดแล้ว ปิดเครื่องและเปิดฝาถัง นำเรซิ่นออกมาเทลงในแม่พิมพ์ตามที่ต้องการ
- นำแม่พิมพ์ที่ใส่เรซิ่นเต็มแล้วใส่กลับลงไปในถังอีกครั้งแต่ให้เปลี่ยนฝาเป็นฝาแรงดัน
- ปิดฝาให้แน่นแล้วเริ่มขบวนการ “ดัน ”โดยเปิดปั้มแรงดันจนสุด จากนั้นปิดระบบทั้งหมด ให้กักแรงดันไว้ในถัง จนกว่าเรซิ่นจะเซ็ตตัว
- เมื่อเรซิ่นเซ็ตตัวแล้วถึงเปิดฝา แล้วนำแม่พิมพ์ออกมาเพื่อที่จะแกะชิ้นงานต่อไป
การใช้ถังดึงดันในการผลิต Art Toy เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดฟองอากาศ ช่วยให้ผลงานมีคุณภาพสูง แข็งแรง และสวยงามตามที่ต้องการ
เพียงเท่านี้ ก็สามารถทำ Art toy ได้แล้ว
หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้ สามารถอ่านวิธีทำ Art toy สำหรับมือใหม่ แบบละเอียด ได้เลย ขอให้ทุกคนทำ Art toy อย่างมีความสุข
อย่าลืมส่งต่อบทความดี ๆ ให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนด้วยนะครับ
ด้วยรักและหวังดี ResinSj จะพัฒนาบทความที่ดีให้ทุกๆคน ต่อไป ครับ
สามารถรับชมบทความดี ๆ ได้ข้างใต้นี้ได้เลยนะครับ
บริษัท เอสเจ สินธุพันธ์เทรดดิ้ง จำกัด
โทรศัพท์ : 02-3794555 , 02-3794575 , 02-3794604
โทรศัพท์มือถือ : 088-2990267 , 086-3171747
Line ID : @resinsj
Facebook : เรซิ่น เอสเจลำสาลี
“งานเรซิ่น … นึกอะไรไม่ออก บอกเอสเจ”
ผู้เขียน: พี่นิ้ง ResinSJ
พี่นิ้ง เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานเรซิ่น ซึ่งมากด้วยประสบการณ์งานคอมโพสิตทั้งหมด เช่น
งานไฟเบอร์กลาส งานคาร์บอน ไฟเบอร์ และงานซิลิโคน รวมทั้งการสร้างสรรค์ ผสมผสานวัตถุดิบ และเทคนิคเข้าด้วยกัน ซึ่งผ่านการเปิดคอร์สนับ 10 ครั้ง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี และมีคำขวัญที่ว่า "เฝ้าดูลูกค้าเติบโต"
บทความที่น่าสนใจ