เรซิ่นเอสเจตัวจริงเรื่องเรซิ่น มาตลอด 30 ปี

โทร :
, 02-379-4555
, 02-379-4575

เรซิ่นเอสเจตัวจริงเรื่องเรซิ่น มาตลอด 30 ปี

ปัญหาผิวคาร์บอนเหนอะหลังหุ้มด้วยโพลีเอสเตอร์เรซิ่น

คุณเคยเจอปัญหาผิวชิ้นงานคาร์บอนไฟเบอร์ที่หุ้มเสร็จแล้ว แต่กลับรู้สึก เหนียวเหนอะหนะ หรือ เป็นรอยนิ้วมือ เมื่อสัมผัสไหม? คำถามนี้เป็นที่พบบ่อยในช่องทางโซเชียลมีเดียของ “เรซิ่นเอสเจ” และสร้างความเข้าใจผิดว่าเรซิ่นไม่แห้งสนิท วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจนี้อย่างละเอียด พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขปัญหาผิวเหนอะหนะบนงานคาร์บอนไฟเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ โพลีเอสเตอร์เรซิ่น

ความหมายของคาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fiber)

คาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fiber) คือวัสดุที่ประกอบด้วยเส้นใยขนาดเล็กมาก ซึ่งส่วนใหญ่ (ประมาณ 90% ขึ้นไป) เป็นธาตุคาร์บอน เส้นใยเหล่านี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-10 ไมโครเมตร (เล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ประมาณ 10 เท่า) ถูกนำมาถักทอเป็นผืนผ้าหรือเส้นด้ายเพื่อใช้เสริมแรงในวัสดุคอมโพสิต เช่น เรซิ่น (อีพ็อกซี่, โพลีเอสเตอร์, ไวนิลเอสเตอร์) ทำให้ได้วัสดุที่มีคุณสมบัติโดดเด่น คือ น้ำหนักเบาแต่แข็งแรงและแข็งแกร่งกว่าเหล็กหลายเท่า มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง ทนต่ออุณหภูมิสูง และมีค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวทางความร้อนต่ำ จึงนิยมใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการสมรรถนะสูง เช่น อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ยานยนต์ อุปกรณ์กีฬา และโครงสร้างต่างๆ

ทำความเข้าใจกับ "ความเหนียว" บนผิวเรซิ่น ที่เป็นคุณสมบัติ ไม่ใช่ข้อบกพร่อง!

สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ ความเหนียวที่ผิวด้านนอกของงานคาร์บอนไฟเบอร์ที่เกิดจากโพลีเอสเตอร์เรซิ่นนั้น ไม่ใช่ สัญญาณว่าเรซิ่นไม่แห้ง หากคุณลองตรวจสอบเรซิ่นที่ค้างอยู่ในแก้วผสมแล้วพบว่ามันแข็งตัว ไม่เป็นของเหลว นั่นแสดงว่ากระบวนการบ่ม (Curing Process) ภายในเนื้อเรซิ่นได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว

แล้วทำไมผิวหน้าถึงยังเหนอะหนะล่ะ?

ความเหนียวเหนอะหนะที่คุณสัมผัสได้จากปัญหาผิวคาร์บอนเหนอะ คือ คุณสมบัติเฉพาะตัวของโพลีเอสเตอร์เรซิ่น ที่จำเป็นสำหรับการทำงานแบบเป็นชั้นๆ (Layer by Layer) คุณสมบัตินี้ช่วยให้เรซิ่นแต่ละชั้นสามารถ ผสานรวมกันได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้งานออกมาแข็งแรงและไร้รอยต่อ แต่เมื่อเป็นงานชั้นสุดท้ายที่ไม่มีการเรซิ่นเพิ่มแล้ว ความเหนียวนี้กลับกลายเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข

นอกจากนี้ สาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดปัญหาผิวเหนอะหนะได้แก่ 

  • อัตราส่วนสารเร่งแข็งไม่เหมาะสม  น้อยเกินไปทำให้เรซิ่นแข็งตัวไม่สมบูรณ์
  • อุณหภูมิต่ำเกินไป  ปฏิกิริยาเคมีจะเกิดขึ้นช้ามาก ทำให้เรซิ่นบ่มไม่เต็มที่

ความชื้นสูง  อาจรบกวนปฏิกิริยาการแข็งตัวได้

5 วิธีจัดการกับปัญหาผิวเหนอะหนะบนงานคาร์บอนไฟเบอร์ชั้นสุดท้าย

5 วิธีจัดการกับปัญหาผิวเหนอะหนะบนงานคาร์บอนไฟเบอร์ชั้นสุดท้าย

เมื่อคุณหุ้มคาร์บอนไฟเบอร์มาถึงชั้นสุดท้ายและไม่ต้องการเรซิ่นเพิ่มแล้ว แต่ยังคงมีผิวเหนอะหนะ ไม่ต้องกังวล! เรซิ่นเอสเจมีหลายวิธีแก้ไขที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้

1. เช็ดด้วยอะซิโตน (Acetone) เพื่อกำจัดความเหนอะ

  • วิธีการ  ใช้ผ้าสะอาดชุบ อะซิโตน (คลิกที่นี่เพื่อดูเพิ่มเติม) ให้ชุ่มๆ แล้วเช็ดลงบนผิวงานที่เหนอะหนะอย่างแรง ความเหนียวจะถูกเช็ดออกไป
  • ข้อควรระวัง  อะซิโตนเป็นสารระเหยและติดไฟได้ง่าย ควรใช้งานในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและหลีกเลี่ยงประกายไฟ

2. แช่น้ำผงซักฟอก (แฟ้บ) เพื่อขจัดคราบขาวขุ่น

  • วิธีการ  นำชิ้นงานไป แช่ในน้ำที่ผสมผงซักฟอก (แฟ้บ) ทิ้งไว้ 1 คืน
  • ผลลัพธ์  หลังจากการแช่ อาจมี คราบขาวขุ่น ขึ้นทั่วทั้งชิ้นงาน จากนั้นให้ใช้ สก๊อตไบร์ท ขัดคราบขาวนี้ออก
  • ข้อควรระวัง  วิธีนี้เหมาะสำหรับชิ้นงานที่สามารถแช่น้ำได้ และอาจต้องใช้แรงในการขัดคราบขาวออก

3. เคลือบด้วยเรซิ่นเคลือบรูป 99SJ (เรซิ่นเฉพาะทาง)

  • วิธีการ  ในชั้นสุดท้ายของการหุ้ม ให้ใช้ เรซิ่นเคลือบรูป 99SJ ในการเคลือบ
  • ประโยชน์  เรซิ่นชนิดนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อการเคลือบโดยเฉพาะ ช่วยให้ผิวงานเรียบเนียนและไม่เหนียวเหนอะหนะเมื่อแห้งสนิท

4. ผสมโมโนแว็กซ์ (Monowax) ลงในเรซิ่นชั้นสุดท้าย

  • วิธีการ  ผสม โมโนแว็กซ์ (Monowax) (คลิกที่นี่เพื่อดูเพิ่มเติม) ลงไปในเรซิ่นสำหรับเคลือบชั้นสุดท้ายในอัตราส่วน 1% 
  • หลักการทำงาน  โมโนแว็กซ์จะลอยตัวขึ้นสู่ผิวหน้าของเรซิ่นและสร้างชั้นฟิล์มบางๆ เพื่อป้องกันการสัมผัสกับอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุของความเหนียวเหนอะหนะ
  • ข้อควรระวัง  ห้ามผสมโมโนแว็กซ์มากเกินไป! หากผสมมากเกินไป ชิ้นงานจะกลายเป็น สีนมขุ่นๆ ไม่ใส ซึ่งจะต้องขัดชั้นนั้นทิ้งทั้งหมด

5. ขัดกระดาษทรายต่อไป (ไม่แนะนำสำหรับความเหนอะมาก)

  • วิธีการ  ใช้กระดาษทรายขัดผิวงานต่อไปเรื่อยๆ
  • ข้อเสีย  วิธีนี้ เปลืองกระดาษทรายมาก เนื่องจากความเหนอะหนะของเรซิ่นจะไปติดบนกระดาษทราย ทำให้กระดาษทรายเสียหายและใช้งานไม่ได้อย่างรวดเร็ว

ขั้นตอนหลังการกำจัดผิวเหนอะหนะ เตรียมพร้อมสำหรับงานเคลือบและการเก็บผิว

เมื่อคุณกำจัดความเหนียวเหนอะหนะที่ผิวหน้าออกไปได้แล้ว คุณก็สามารถดำเนินการตามขั้นตอนการเก็บผิวงานต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการ ขัดปั่นเงาแบบโนแลค (No-Lac) หรือ การพ่นแลคเกอร์ เพื่อป้องกันปัญหาผิวคาร์บอนเหนอะ และ เพื่อความสวยงามและทนทาน 

  • งานโนแลค (No-Lac)  วิธีนี้จะเน้นการขัดเงาโดยตรงบนชั้นเรซิ่นที่แข็งตัวแล้ว ข้อดีคือ ชิ้นงานจะไม่เหลืองไว เนื่องจากไม่มีชั้นแลคเกอร์มาบดบังหรือทำปฏิกิริยากับแสง อย่างไรก็ตาม การขัดจบงานแบบโนแลคจะยากกว่า การพ่นแลคเกอร์และต้องอาศัยทักษะและความละเอียดสูง
  • งานพ่นแลคเกอร์  เป็นวิธีที่นิยมและง่ายกว่าในการได้ผิวเงาและเรียบเนียน ข้อเสียคือ ชิ้นงานที่พ่นแลคเกอร์อาจเหลืองไวกว่า งานโนแลคเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากแลคเกอร์บางชนิดอาจมีคุณสมบัติในการเหลืองตัวเมื่อสัมผัสกับรังสียูวี
  • งานพ่นทับด้วย  เรซิ่นเคลือบเงา ( RESIN GUARD )  เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการได้ผิวเงาและเรียบเนียน  และยังป้องกันรังสียูวี ได้เป็นอย่างดี ซึ่งช่วยเรื่องการป้องกันการเหลือง อย่างได้ผลดี และยาวนาน
ขั้นตอนหลังการกำจัดผิวคาร์บอนเหนอะหลังหุ้ม

มือใหม่สามารถแก้ปัญหาผิวคาร์บอนเหนอะหลังหุ้มได้ยังไงบ้าง

สำหรับมือใหม่ที่เจอปัญหาผิวเหนอะหนะหลังหุ้มคาร์บอน มีวิธีแก้ไขง่ายๆ ดังนี้ครับ

  1. ควบคุมอัตราส่วนสารเร่งแข็งให้แม่นยำ ใช้เครื่องชั่งดิจิทัลที่ละเอียด ตวงอัตราส่วนของเรซิ่นกับสารเร่งแข็งตามที่ผู้ผลิตแนะนำอย่างเคร่งครัด ห้ามกะประมาณด้วยสายตาเด็ดขาด เพราะอัตราส่วนที่ผิดเพี้ยนเพียงเล็กน้อยก็ส่งผลต่อการแข็งตัวได้ ทั้งการแข็งตัวช้า หรือแข็งตัวเร็วเกินไป
  2. ทำงานในอุณหภูมิที่เหมาะสม ควรทำงานในห้องที่มีอุณหภูมิประมาณ 20-25°C เพื่อให้เรซิ่นทำปฏิกิริยาได้ดี ไม่ควรทำงานในที่ที่อากาศเย็นจัด
  3. เพิ่มการระบายอากาศ (แต่ไม่ให้ลมโกรก) การถ่ายเทอากาศที่ดีจะช่วยลดความชื้นและไอระเหย แต่ไม่ควรมีลมโกรกโดยตรงบนชิ้นงาน เพราะอาจทำให้เกิดฝุ่นเกาะหรือการแข็งตัวไม่สม่ำเสมอได้
  4. การขัดและเคลือบผิวเพิ่มเติม หากชิ้นงานยังคงเหนอะหนะเล็กน้อยหลังจากแข็งตัวแล้ว (แต่ไม่นิ่มเละ) สามารถลองแก้ไขได้โดย
    • เช็ดด้วยทินเนอร์ (ระวังเรื่องพื้นผิว)  สำหรับเรซิ่นบางชนิด การเช็ดผิวหน้าที่เหนอะหนะด้วยทินเนอร์อาจช่วยได้ แต่ต้องระวังไม่ให้เช็ดมากเกินไปจนทำให้เรซิ่นที่ยังไม่แข็งตัวเต็มที่เกิดความเสียหาย
    • ขัดผิวและเคลือบเงา  ใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดมากๆ (เช่น เบอร์ 1000, 1500, 2000) ขัดผิวหน้าที่เหนอะหนะออกเบาๆ และตามด้วยการขัดเงาด้วยน้ำยาขัดละเอียด (Rubbing Compound) และน้ำยาขัดเงา (Polishing Compound) เพื่อให้ได้ผิวที่เรียบเนียนและเงางาม วิธีนี้เหมาะสำหรับกรณีที่ผิวเหนอะหนะไม่มากนัก

5. ข้อควรระวังสำหรับมือใหม่ ทำยังไงไม่ให้เกิดปัญหาผิวคาร์บอนเหนอะ

เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีสำหรับมือใหม่ในการทำงานกับคาร์บอนไฟเบอร์และเรซิ่น 

  1. สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เสมอ 
    • ถุงมือ  ควรใช้ถุงมือไนไตรล์ หรือถุงมือยาง เพื่อป้องกันเรซิ่นสัมผัสผิวหนังโดยตรง (ถุงมือผ้าไม่กันเรซิ่นซึม)
    • แว่นตานิรภัย  ป้องกันละอองเรซิ่นหรือเส้นใยคาร์บอนเข้าตา
    • หน้ากากกรองสารเคมี  ใช้หน้ากากที่มีไส้กรองสำหรับไอระเหยสารอินทรีย์ (Organic Vapor) เพื่อป้องกันการสูดดมไอระเหยจากเรซิ่นและสารเร่งแข็ง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ
    • เสื้อผ้าแขนยาว/ผ้ากันเปื้อน  ป้องกันผิวหนังสัมผัสกับเรซิ่น
  2. ทำงานในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี  ควรทำงานกลางแจ้ง หรือในห้องที่มีพัดลมดูดอากาศ/ดูดควัน เพื่อลดการสะสมของไอระเหยจากเรซิ่นและสารเร่งแข็ง
  3. อ่านและทำความเข้าใจคำแนะนำของผู้ผลิต  ทุกผลิตภัณฑ์มีคำแนะนำการใช้งานเฉพาะตัว โดยเฉพาะอัตราส่วนการผสมสารเร่งแข็ง ระยะเวลาการทำงาน (Pot Life) และระยะเวลาการแข็งตัว (Cure Time) ควรอ่านและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
  4. เตรียมอุปกรณ์และวางแผนล่วงหน้า  เรซิ่นมี Pot Life (ระยะเวลาที่เรซิ่นเริ่มแข็งตัวหลังจากผสมสารเร่งแข็ง) ที่จำกัด ควรเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อมก่อนผสมเรซิ่น เพื่อให้สามารถทำงานได้ต่อเนื่องและไม่เกิดปัญหาเรซิ่นแข็งตัวก่อนเวลา
  5. ทดลองกับชิ้นงานเล็กๆ ก่อน  หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับอัตราส่วนการผสมหรือเทคนิคการทำงาน ควรทดลองกับชิ้นงานขนาดเล็กๆ ก่อน เพื่อให้คุ้นเคยและมั่นใจในขั้นตอน ก่อนลงมือทำกับชิ้นงานจริงที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือสำคัญกว่า
  6. การจัดเก็บวัสดุอย่างถูกต้อง  เก็บเรซิ่นและสารเร่งแข็งในที่แห้ง เย็น และพ้นจากแสงแดดโดยตรง ปิดฝาภาชนะให้สนิทหลังใช้งานเสมอ และเก็บให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และปฏิบัติตามข้อควรระวังเหล่านี้ จะช่วยให้มือใหม่สามารถทำงานหุ้มคาร์บอนไฟเบอร์ได้อย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจครับ!

สรุป - ปัญหาผิวเหนอะหลังหุ้มคาร์บอนไฟเบอร์

การทำงานล้วนเกิดปัญหาได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหุ้มคาร์บอนไฟเบอร์ ที่จะต้องการความเข้าใจในวัสดุและเทคนิคที่ถูกต้อง ปัญหาผิวเหนอะหนะด้วยโพลีเอสเตอร์เรซิ่นเป็นเรื่องปกติที่สามารถจัดการได้ด้วยวิธีการที่เหมาะสมตามที่เราได้แนะนำไป หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานหรือต้องการคำแนะนำเฉพาะสำหรับโครงการของคุณ อย่าลังเลที่จะ ทักสอบถาม “เรซิ่นเอสเจ” ได้เสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับงานหุ้มคาร์บอนไฟเบอร์ของคุณ!

 

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่ทำงานกับคาร์บอนไฟเบอร์นะครับ! มีคำถามเพิ่มเติมหรืออยากปรึกษาเรื่องเรซิ่น สามารถสอบถามเข้ามาได้เลยครับ!

ขั้นตอนหลังการกำจัดผิวคาร์บอนเหนอะหลังหุ้ม
Picture of ผู้เขียน: พี่นิ้ง ResinSJ
ผู้เขียน: พี่นิ้ง ResinSJ

พี่นิ้ง เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานเรซิ่น ซึ่งมากด้วยประสบการณ์งานคอมโพสิตทั้งหมด เช่น
งานไฟเบอร์กลาส งานคาร์บอน ไฟเบอร์ และงานซิลิโคน รวมทั้งการสร้างสรรค์ ผสมผสานวัตถุดิบ และเทคนิคเข้าด้วยกัน ซึ่งผ่านการเปิดคอร์สนับ 10 ครั้ง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี และมีคำขวัญที่ว่า "เฝ้าดูลูกค้าเติบโต"

สอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อติดต่อ

บริษัท เอสเจ สินธุพันธ์เทรดดิ้ง จำกัด

โทรศัพท์ : 02-379-4555 , 02-379-4575 , 02-379-4604

โทรศัพท์มือถือ : 088-299-0267 , 086-317-1747

Line ID : @resinsj

Facebook : เรซิ่น เอสเจลำสาลี

รอบจัดส่ง