fbpx

เรซิ่นเอสเจตัวจริงเรื่องเรซิ่น มาตลอด 30 ปี

โทร :
, 02-379-4555
, 02-379-4575

เรซิ่นเอสเจตัวจริงเรื่องเรซิ่น มาตลอด 30 ปี

งานกรอบรูปวิทยาศาสตร์

เคยคิดไหมว่ากรอบรูปสามารถเป็นได้มากกว่าวัตถุตกแต่ง? เมื่อเทคโนโลยีเรซิ่นเข้ามาผสมผสานกับงานวิทยาศาสตร์ กรอบรูปไม่ใช่แค่เครื่องประดับบ้านอีกต่อไป

กรอบรูปวิทยาศาสตร์จากเรซิ่น ความลงตัวระหว่างความสวยงามและการใช้งาน

1. เรซิ่น  วัสดุแห่งนวัตกรรม

เรซิ่น (Resin) เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษ ทั้งความใส ความทนทาน และความสามารถในการขึ้นรูปได้หลากหลาย ทำให้เป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างกรอบรูปในงานวิทยาศาสตร์ เช่น การเก็บตัวอย่างพืช ใบไม้ หรือแมลง

  • คุณสมบัติเด่นของเรซิ่น
    • ความใสที่ช่วยแสดงรายละเอียดของชิ้นงาน
    • ป้องกันความเสียหายจากแสง UV
    • ทนต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ

2. กรอบรูปเรซิ่นในงานวิทยาศาสตร์

กรอบรูปเรซิ่นมักใช้ในงานที่ต้องการอนุรักษ์ตัวอย่างธรรมชาติหรือแสดงชิ้นงานทางชีววิทยา โดยประโยชน์ที่สำคัญ ได้แก่

  • การเก็บตัวอย่างไว้ในสภาพที่สมบูรณ์
  • การนำเสนองานวิจัยในรูปแบบที่สวยงามและมืออาชีพ
  • การใช้งานในพิพิธภัณฑ์หรือห้องเรียน

3. ขั้นตอนการทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์จากเรซิ่น

  1. เตรียมตัวอย่าง  เช่น ใบไม้ ดอกไม้
  2. สร้างแม่พิมพ์  เลือกรูปทรงและขนาดที่ต้องการ
  3. เทเรซิ่น  ผสมเรซิ่นและสารเร่งแข็ง เทลงบนตัวอย่าง
  4. ขัดและเคลือบ  เพื่อให้ผิวเรียบและดูเงางาม

4. การใช้งานในชีวิตประจำวัน

กรอบรูปเรซิ่นไม่เพียงแต่ใช้ในงานวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเหมาะสำหรับเป็นของตกแต่งบ้าน ของขวัญ หรือแม้กระทั่งเป็นสื่อการเรียนการสอน


กรอบรูปวิทยาศาสตร์ที่ทำจากเรซิ่นเป็นตัวอย่างที่ดีของการนำเทคโนโลยีและศิลปะมาผสมผสานกัน ไม่เพียงเพิ่มมูลค่าทางการใช้งาน แต่ยังสร้างความสวยงามที่คงทนและเป็นเอกลักษณ์

วางใยตาข่ายอีกรอบเพื่อความแข็งแรง
กรอบรูปวิทยาศาสตร์
กรอบรูปวิทยาศาสตร์

โพลีเอสเตอร์เรซิ่น vs อีพ็อกซี่เรซิ่น  วัสดุที่ใช่สำหรับงานของคุณ

เคยสงสัยไหมว่า โพลีเอสเตอร์เรซิ่น และ อีพ็อกซี่เรซิ่น ต่างกันอย่างไร? ทั้งสองวัสดุมีจุดเด่นเฉพาะตัว และเหมาะกับงานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ให้ถูกต้องคือกุญแจสำคัญในการทำงานให้สมบูรณ์แบบ!

1. ความแตกต่างด้านคุณสมบัติพื้นฐาน

โพลีเอสเตอร์เรซิ่น

  • ลักษณะ  แข็งตัวเร็ว ราคาประหยัด และมักมีความใสมาก
  • การใช้งาน  เหมาะสำหรับงานขนาดใหญ่ เช่น แม่พิมพ์ เรือ หรือเฟอร์นิเจอร์
  • ข้อดี
    • ราคาย่อมเยา
    • เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องการความทนทานสูง
  • ข้อเสีย
    • กลิ่นแรงเพราะมีสารสไตรีน
    • ไม่ค่อยทนต่อรังสี UV หรือความชื้น

อีพ็อกซี่เรซิ่น

  • ลักษณะ  ใสมาก ทนทาน และสามารถควบคุมการแข็งตัวได้ดี
  • การใช้งาน  เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียด เช่น งานศิลปะ งานเคลือบ หรือกรอบรูป
  • ข้อดี
    • มีความทนทานสูง
    • กันน้ำและความชื้นได้ดี
    • การยึดเกาะกับพื้นผิวหลากหลาย
  • ข้อเสีย
    • ราคาสูงกว่าโพลีเอสเตอร์เรซิ่น
    • ใช้เวลานานกว่าในการเซ็ตตัว

2. การเลือกใช้ในงานต่างๆ

โพลีเอสเตอร์เรซิ่น

  • งานหล่อแม่พิมพ์
  • การผลิตสินค้าในปริมาณมาก
  • งานที่ต้องการความหนา เช่น โต๊ะเรซิ่น

อีพ็อกซี่เรซิ่น

  • งานที่ต้องการความโปร่งใส เช่น กรอบรูป
  • งานศิลปะ เช่น แผ่นเคลือบเรซิ่น
  • งานเคลือบที่ต้องการความทนทานต่อการใช้งานหนัก

3. เปรียบเทียบความเหมาะสม

คุณสมบัติ

โพลีเอสเตอร์เรซิ่น

อีพ็อกซี่เรซิ่น

ความทนทาน

ปานกลาง

สูง

การยึดเกาะ

ปานกลาง

ดีมาก

ความโปร่งใส

โปร่งใสพอสมควร

ใสมาก

ราคาวัสดุ

ต่ำ

สูง

การกันความชื้น

ต่ำ

สูง

การเลือกใช้โพลีเอสเตอร์เรซิ่นหรืออีพ็อกซี่เรซิ่น ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความต้องการ และประเภทงานของคุณ หากคุณมองหาวัสดุที่ประหยัดสำหรับงานขนาดใหญ่ โพลีเอสเตอร์เรซิ่นคือคำตอบ แต่ถ้าต้องการความสวยงาม ทนทาน และโปร่งใส อีพ็อกซี่เรซิ่นจะเหมาะสมกว่ากับการทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์

โพลีเอสเตอร์เรซิ่น vs อีพ็อกซี่เรซิ่น  ใช้ในงานไหนและเหมาะกับใคร?

การเลือกใช้เรซิ่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัสดุอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวกับประเภทงานและผู้ใช้งานอีกด้วย คุณเลือกถูกต้องหรือยัง? มาดูกันว่าวัสดุแต่ละชนิดเหมาะกับใครและใช้งานประเภทไหน!

1. งานที่เหมาะกับโพลีเอสเตอร์เรซิ่น

งานประเภท 

  • การผลิตชิ้นงานขนาดใหญ่  เช่น เรือคายัค รถไฟเบอร์กลาส หรือเฟอร์นิเจอร์
  • แม่พิมพ์ต้นทุนต่ำ  งานที่ไม่ต้องการความละเอียดสูง เช่น งานหล่อไฟเบอร์กลาส
  • งานที่ต้องการปริมาณมาก  เช่น โต๊ะเรซิ่นขนาดใหญ่ หรือของตกแต่งทั่วไป

บุคคลที่เหมาะสม 

  • ช่างฝีมือ  เหมาะกับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นงานหล่อเรซิ่นด้วยต้นทุนต่ำ
  • โรงงานผลิตสินค้า  เนื่องจากราคาวัสดุที่คุ้มค่าและการเซ็ตตัวที่รวดเร็ว
  • งาน DIY งบประมาณจำกัด  ผู้ที่ต้องการสร้างงานง่ายๆ และไม่ได้เน้นความคงทนสูง

2. งานที่เหมาะกับอีพ็อกซี่เรซิ่น

งานประเภท 

  • งานศิลปะและตกแต่ง  เช่น งานกรอบรูปโปร่งใส งานเคลือบโต๊ะ หรือภาพศิลปะ 3 มิติ
  • งานเคลือบผิวหน้า  ใช้เคลือบวัสดุให้ดูเงางาม เช่น ไม้หรือโลหะ
  • งานที่ต้องการความแข็งแรง  เช่น ซ่อมแซมชิ้นส่วนอุปกรณ์ หรือทำอุปกรณ์ทางอุตสาหกรรม
  • งานใสโปร่งแสง  เช่น เครื่องประดับเรซิ่นหรืองานตกแต่งแบบโมเดิร์น

บุคคลที่เหมาะสม 

  • ศิลปินและนักออกแบบ  ผู้ที่ต้องการความโปร่งใสและความเงางามในชิ้นงาน
  • ช่างมืออาชีพ  สำหรับงานซ่อมแซมที่ต้องการวัสดุที่แข็งแรงและทนทาน
  • ผู้ผลิตของตกแต่งบ้านระดับพรีเมียม  งานที่ต้องการคุณภาพสูงและดูหรูหรา

3. เปรียบเทียบระหว่างสองวัสดุ

คุณลักษณะ

โพลีเอสเตอร์เรซิ่น

อีพ็อกซี่เรซิ่น

ความเหมาะสมกับงานขนาดใหญ่

ดีเยี่ยม

ใช้ได้ แต่ไม่เหมาะที่สุด

งานที่ต้องการความโปร่งใส

พอใช้

เหมาะมาก

ผู้ใช้งานมือใหม่

เหมาะมาก

ต้องการทักษะเพิ่มเติม

งบประมาณ

ประหยัดมาก

สูงกว่า แต่คุ้มค่า

  • โพลีเอสเตอร์เรซิ่น เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดต้นทุนในงานใหญ่และงานทั่วไป
  • อีพ็อกซี่เรซิ่น เหมาะกับงานศิลปะที่ต้องการคุณภาพสูง งานซ่อมแซม หรือผู้ที่เน้นความละเอียด

เลือกวัสดุที่เหมาะกับคุณ เพื่อให้ทุกชิ้นงานมีคุณภาพและตรงตามความต้องการในการทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์

คำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่เริ่มต้นใช้เรซิ่น

เพิ่งเริ่มต้นใช้งานเรซิ่น แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี? เรซิ่นเป็นวัสดุที่ใช้งานได้หลากหลายและสร้างผลงานที่สวยงามได้ไม่ยาก หากคุณมีคำแนะนำและความเข้าใจที่ถูกต้อง!

1. เลือกประเภทเรซิ่นที่เหมาะกับงาน

  • โพลีเอสเตอร์เรซิ่น 
    • ราคาประหยัด เหมาะสำหรับงานหล่อแม่พิมพ์หรือชิ้นงานใหญ่
    • กลิ่นแรง ควรใช้งานในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี
  • อีพ็อกซี่เรซิ่น 
    • โปร่งใส ใช้ง่ายสำหรับงานศิลปะ งานเคลือบ หรือชิ้นงานที่ต้องการความละเอียด
    • ใช้เวลานานกว่าในการเซ็ตตัว แต่ให้ผลลัพธ์ที่สวยงามกว่า

2. เตรียมตัวก่อนเริ่มใช้งาน

  • อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม 
    • ถุงมือยางและหน้ากากป้องกันสารเคมี
    • แก้วผสมหรือถ้วยพลาสติก และไม้คนเรซิ่น
    • แม่พิมพ์ซิลิโคน (สำหรับงานหล่อ) หรือวัสดุพื้นผิวที่ต้องการเคลือบ
    • อุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาด
  • พื้นที่ทำงาน 
    • ควรทำงานในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี
    • ปูพื้นผิวด้วยพลาสติกหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ เพื่อป้องกันคราบเรซิ่นหกเลอะ

3. เทคนิคง่ายๆ สำหรับมือใหม่

  1. อ่านคำแนะนำบนฉลาก  เรซิ่นแต่ละชนิดมีวิธีใช้งานและอัตราส่วนการผสมต่างกัน เช่น อีพ็อกซี่ต้องผสมตัวเรซิ่นกับสารเร่งแข็งตัวในอัตราที่แม่นยำ
  2. เริ่มต้นจากชิ้นงานเล็กๆ  เพื่อฝึกฝนการผสมและการเท
  3. กำจัดฟองอากาศ  ใช้ไฟแช็กหรือเครื่องเป่าลมไล่ฟองหลังเทเรซิ่นลงในแม่พิมพ์
  4. เลือกแม่พิมพ์ที่เรียบง่าย  เช่น แม่พิมพ์รูปทรงวงกลมหรือสี่เหลี่ยม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการถอดแม่พิมพ์

4. เคล็ดลับการหลีกเลี่ยงปัญหาที่พบบ่อย

  • เรซิ่นไม่แข็งตัว 
    • สาเหตุ  ผสมเรซิ่นกับสารเร่งแข็งตัวไม่ถูกต้อง
    • วิธีแก้  ใช้เครื่องชั่งดิจิทัลหรือถ้วยตวงในการวัดอัตราส่วนอย่างแม่นยำ
  • ฟองอากาศเยอะเกินไป 
    • สาเหตุ  คนเรซิ่นเร็วเกินไป
    • วิธีแก้  คนเรซิ่นให้ช้าลง และใช้อุปกรณ์ไล่ฟองอากาศ
  • พื้นผิวไม่เงางาม 
    • สาเหตุ  ใช้แม่พิมพ์คุณภาพต่ำหรือไม่ได้ขัดพื้นผิว
    • วิธีแก้  ใช้แม่พิมพ์ซิลิโคนคุณภาพดี และขัดผิวชิ้นงานด้วยกระดาษทรายละเอียด

5. ฝึกฝนและทดลองสร้างผลงาน

  • เริ่มจากงานง่าย เช่น หล่อพวงกุญแจ ใส่ดอกไม้แห้ง หรือใบไม้ในเรซิ่น
  • ลองเพิ่มสีเรซิ่นหรือผงประกาย เพื่อสร้างชิ้นงานที่มีเอกลักษณ์

การใช้งานเรซิ่นสำหรับมือใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก หากมีความรู้พื้นฐานและความระมัดระวัง ลองเริ่มต้นด้วยงานง่ายๆ ฝึกฝนบ่อยๆ คุณจะสามารถสร้างชิ้นงานที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างแน่นอน!

การใช้เรซิ่นเพื่อสร้างรายได้  โอกาสในการประกอบอาชีพ

คิดจะเริ่มต้นธุรกิจจากงานเรซิ่นใช่ไหม? ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมีประสบการณ์แล้ว การสร้างรายได้จากเรซิ่นเป็นไปได้จริง เพราะวัสดุนี้สามารถสร้างชิ้นงานที่สวยงามและหลากหลาย พร้อมตอบโจทย์ตลาดที่กำลังเติบโต!

1. งานเรซิ่นที่สามารถสร้างรายได้

1.1 งานศิลปะและของตกแต่งบ้าน

  • กรอบรูปเรซิ่น  กรอบที่ใส่ตัวอย่างธรรมชาติ เช่น ใบไม้ ดอกไม้ หรือแมลง
  • โต๊ะเรซิ่น  โต๊ะที่มีการฝังลวดลายไม้หรือสิ่งของในเรซิ่น
  • ภาพศิลปะเรซิ่น  เช่น ภาพ 3 มิติ หรือภาพแนวอาร์ต

1.2 เครื่องประดับและของใช้งานส่วนตัว

  • สร้อยคอ พวงกุญแจ หรือแหวนที่ทำจากเรซิ่น
  • เคสโทรศัพท์ลายพิเศษที่ตกแต่งด้วยเรซิ่น

1.3 งานเชิงอุตสาหกรรม

  • แม่พิมพ์เรซิ่น  สำหรับหล่อวัสดุอื่นๆ เช่น ปูนปลาสเตอร์หรือขี้ผึ้ง
  • ชิ้นส่วนอุปกรณ์  เช่น วัสดุเคลือบหรือเสริมความแข็งแรง

2. วิธีสร้างรายได้จากงานเรซิ่น

2.1 ขายสินค้าออนไลน์

  • แพลตฟอร์มยอดนิยม  เช่น Shopee, Lazada, Facebook Marketplace และ Instagram
  • สร้างร้านของตัวเอง  ผ่านเว็บไซต์ Shopify หรือเปิดบัญชี TikTok เพื่อโปรโมตสินค้า

2.2 รับออร์เดอร์แบบ Made-to-Order

  • ให้ลูกค้าออกแบบชิ้นงานเอง เช่น ฝังรูปถ่าย ดอกไม้ หรือวัสดุส่วนตัว
  • รับงานเคลือบโต๊ะหรือของใช้บ้าน

2.3 เปิดคอร์สสอนงานเรซิ่น

  • สอนผ่าน YouTube, Facebook Live หรือสร้างคอร์สออนไลน์ขายในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Udemy

2.4 รับงานซ่อมแซมและตกแต่ง

  • ซ่อมโต๊ะไม้เก่าด้วยเรซิ่นเคลือบให้เหมือนใหม่
  • งานเคลือบพื้นหรือผิววัสดุเพื่อป้องกันการสึกกร่อน

3. เคล็ดลับสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จ

3.1 พัฒนาความแตกต่างของสินค้า

  • ออกแบบชิ้นงานให้มีเอกลักษณ์ เช่น ใช้สีผสมพิเศษ หรือเพิ่มลวดลายเฉพาะ
  • ใช้เรซิ่นคุณภาพสูงเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า

3.2 สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์

  • โพสต์กระบวนการผลิตหรือเบื้องหลังการทำงาน
  • ใช้เทคนิคการเล่าเรื่อง เช่น ทำไมงานเรซิ่นของคุณถึงพิเศษ

3.3 เข้าสู่ตลาดเฉพาะ (Niche Market)

  • เช่น ตลาดงานแต่งงานที่ต้องการของตกแต่งหรือของชำร่วยเฉพาะตัว
  • ตลาดของขวัญส่วนตัวที่ไม่ซ้ำใคร

4. รายได้และผลตอบแทน

ตัวอย่างราคาขายสินค้าเรซิ่น 

  • พวงกุญแจเรซิ่น  ชิ้นละ 50–200 บาท
  • กรอบรูปเรซิ่น  500–1,500 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อน)
  • โต๊ะเรซิ่น  5,000–50,000 บาท (ขึ้นอยู่กับวัสดุและการออกแบบ)

ต้นทุน 

  • โพลีเอสเตอร์เรซิ่น ราคาถูกกว่า เหมาะกับงานขนาดใหญ่
  • อีพ็อกซี่เรซิ่น แพงกว่า แต่เหมาะกับงานที่ต้องการความใสและทนทาน

การทำงานเรซิ่นไม่เพียงแต่จะทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังเป็นงานอดิเรกที่สนุกสนาน แต่ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับคุณได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่ขายสินค้าออนไลน์ รับทำชิ้นงานเฉพาะตัว ไปจนถึงเปิดคอร์สสอน หากคุณมีความคิดสร้างสรรค์และความตั้งใจ โอกาสประสบความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกล

สอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อติดต่อ

บริษัท เอสเจ สินธุพันธ์เทรดดิ้ง จำกัด

โทรศัพท์ : 02-379-4555 , 02-379-4575 , 02-379-4604

โทรศัพท์มือถือ : 088-299-0267 , 086-317-1747

Line ID : @resinsj

Facebook : เรซิ่น เอสเจลำสาลี

รอบจัดส่ง