เรซิ่นเอสเจตัวจริงเรื่องเรซิ่น มาตลอด 30 ปี

โทร :
, 02-379-4555
, 02-379-4575

เรซิ่นเอสเจตัวจริงเรื่องเรซิ่น มาตลอด 30 ปี

ป้ายกำกับสินค้า : ,

ซิลิโคนพุตตี้ (Silicone Putty)

ราคา

400฿

ซิลิโคนพุตตี้ (Silicone Putty)  คือซิลิโคนชนิดพิเศษที่มาในรูปแบบคล้ายดินน้ำมัน ใช้งานง่ายด้วยการปั้นขึ้นรูป เหมาะสำหรับทำแม่พิมพ์ที่ต้องการความรวดเร็วและความละเอียดสูง เป็นสูตรแห้งไว เหมาะกับทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพที่ต้องการความสะดวกและผลลัพธ์คุณภาพ

เหมาะสำหรับ

  • งานทำแม่พิมพ์เรซิ่น
  • งานตกแต่ง DIY / แฮนด์เมด
  • งานศิลปะ / โมเดล
  • งานหล่อชิ้นส่วนที่ต้องการความเร็วและความละเอียดสูง

 

– ตัวเลือกความแข็งของซิลิโคนพุตตี้ –

40 ชอว์ (สีเขียว) – แบบนิ่ม

60 ชอว์ (สีฟ้า) – แบบแข็ง

 

ขนาดที่จำหน่าย

400    กรัม   ราคา   400 บาท

1  กิโลกรัม   ราคา   800 บาท

2  กิโลกรัม   ราคา 1,500 บาท

 

ซิลิโคนพุตตี้ (Silicone Putty)

รายละเอียดสินค้า

ซิลิโคนพุตตี้ (Silicone Putty) คือซิลิโคนชนิดพิเศษที่มาในรูปแบบคล้ายดินน้ำมัน เหมาะสำหรับทำแม่พิมพ์ที่ต้องการความรวดเร็วและความละเอียดสูง

เป็นสูตรแห้งไว เหมาะกับทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว

   คุณสมบัติ 

              “เพียงนวดแล้วกด   ได้โมลด์พร้อมทำชิ้นงาน ภายใน30นาที”

  1. ใช้ง่าย รวดเร็ว เสร็จงานได้ไว
  2. ให้รายละเอียดชิ้นงานที่ดี อัตราการหดตัวต่ำ
  3. แข็งแรง แต่ นุ่มนวล แกะแบบง่าย
  4. เหมาะกับงานชิ้นเล็ก ที่ไม่มีความยุ่งยากมาก
  5. ทนความร้อนได้สูง เหมาะกับการหล่อ กับเรซิ่นหรือปูนปลาสเตอร์ อื่นๆ ได้ดี
  6. ปลอดภัยกับผู้ใช้งาน

วิธีใช้ ซิลิโคนพุตตี้ (Silicone Putty)

  1. แบ่งส่วนผสม Part A และ Part B ในอัตราส่วน 1:1 โดยน้ำหนัก
  2. ใช้มือนวดจนเนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน อย่างรวดเร็ว ไม่เกิน 3นาที
  3. กดต้นแบบที่ต้องการลงบนซิลิโคนทันที หลังจากผสมเสร็จ
  4. ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีเพื่อให้ซิลิโคนแข็งตัวและถอดต้นแบบออกได้ง่าย
  5. รอให้แม่พิมพ์เซ็ตตัวเต็มที่ ภายใน30 นาที ก่อนนำไปใช้งานหล่อวัสดุอื่น
  6. นำไปใช้งานสามารถนำแม่พิมพ์ไปใช้หล่อเรซิ่น วัสดุอื่น ๆ ได้ตามต้องการ

     การเก็บรักษา

ควรเก็บ ซิลิโคนพุตตี้ (Silicone Putty)  ที่ยังไม่ได้ใช้ และ แม่พิมพ์ ไว้ที่อุณหภูมิห้องปกติ  ระวังแสงแดดและความร้อน เพราะจะทำให้อายุสั้นลง

เข้าใจค่าต่างๆของซิลิโคนแม่พิมพ์

เพื่อการเลือกใช้งานที่ถูกต้องและตรงจุด

 

1.     ความหนืด (Viscosity)

ความหนืด เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความต้านทานการไหลของของเหลวซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในงานซิลิโคนสำหรับทำแม่พิมพ์ หากความหนืดสูงเกินไป

อาจทำให้ฟองอากาศลอยออกจากซิลิโคนยาก  (ฟองอากาศจะเกิดได้จากการเทซิลิโคนลงบนต้นแบบ) น้ำยางที่มีความหนืดสูง ทำให้การไหลเข้าไปในรายละเอียดเล็ก ๆ

ได้ไม่ทั่วถึง ในทางกลับกัน หากความหนืดต่ำเกินไป ซิลิโคนอาจไหลเร็วเกินไปจนควบคุมลำบาก

ข้อแนะนำ: ถ้าต้องการแม่พิมพ์ที่มีความละเอียดเยอะ ควรเลือกซิลิโคนที่มีความหนืดต่ำถึงปานกลาง เพื่อให้ไหลเข้าไปในช่องเล็ก ๆ ได้ดีและลดฟองอากาศ

ตัวอย่างค่าความหนืดของวัสดุทั่วไป (หน่วย: MPa.s)

วัสดุค่าความหนืด
น้ำ1–5
น้ำเชื่อม150–200
น้ำผึ้ง2,000–3,000
น้ำเชื่อมช็อกโกแลต10,000–25,000
เนยถั่ว150,000–250,000

 

2.     ความแข็ง (Hardness)

ค่าความแข็งของซิลิโคน เป็นตัวบ่งชี้ความยืดหยุ่นของแม่พิมพ์ ยิ่งค่าความแข็งต่ำ ซิลิโคนจะยิ่งนิ่ม เหมาะสำหรับชิ้นงานที่มีรายละเอียดมาก หรือมีส่วนเว้าแคบ ๆ

ที่ต้องการการดึงแม่พิมพ์ออกได้ง่าย ส่วนค่าความแข็งที่สูงขึ้นจะให้แม่พิมพ์ที่คงรูปดี แข็งแรง และทนทานต่อการใช้งานซ้ำ ไม่เสมอไปที่เราต้องการความแข็งของยางต่ำ

ตย.เช่น งานที่มีทรงเรขาคณิต จะต้องการยางที่แข็ง เพื่อการทรงตัว การอยู่ทรง งานที่ทำโมลด์ถลก ต้องการยางที่นิ่ม เพื่อให้ถลกงานได้ง่าย รวมถึงบางครั้งเราใช้น้ำยางซิลิโคน

มาสร้างเป็นชิ้นงานที่ต้องการ  การรู้ความต้องการของงานที่เราจะทำว่าต้องมีค่าความแข็งกี่ชอว์ A จะทำให้เลือกชนิดยาง และวางแผนการทำงานได้สมบูรณ์แบบที่สุด

 

3.     การต้านแรงฉีกขาด (Tear Strength)

ความสามารถของวัสดุในการต้านทานแรงฉีกเมื่อมีรอยบากหรือมีการใช้งานในสภาวะที่มีแรงกระชาก สำคัญอย่างยิ่งสำหรับแม่พิมพ์ซิลิโคนที่ใช้งานบ่อย โดยเฉพาะเมื่อมีรอยบาก

รอยตัด หรือขอบคมของชิ้นงาน หากซิลิโคนมีค่า Tear Strength ต่ำ แม่พิมพ์จะฉีกขาดง่ายในระยะเวลาอันสั้น

ซิลิโคนที่มีค่าความต้านแรงฉีกขาดสูง จะช่วยให้แม่พิมพ์มีอายุการใช้งานนานขึ้น แม้มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง  

เราเรียกว่า จำนวนครั้งในการถอดแบบ   เพราะในงานหล่อเรซิ่น หรือ การทำแม่พิมพ์ จำนวนครั้งในการถอดแบบ มีผลกับต้นทุน ซึ่งไม่ได้คิดแค่ค่าวัสดุ เราควรคิดถึงค่าแรง

และ ระยะเวลาตอนทำโมลด์ด้วย

 

4.      การยืดตัว (Elongation)

การยืดตัว บ่งบอกถึงความยืดหยุ่นของซิลิโคน เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้แม่พิมพ์สามารถถอดชิ้นงานที่มีรูปทรงซับซ้อนได้ง่ายขึ้นโดยไม่เสียรูปหรือขาด การเลือกซิลิโคนที่มีค่า Elongation สูง เหมาะอย่างยิ่งกับงานหล่อที่ต้องการดึงแม่พิมพ์ออกจากร่องหรือพื้นที่แคบ

ค่าสูง = ยืดได้มากโดยไม่ขาด = เหมาะกับแม่พิมพ์ซับซ้อน

 

5.      ความแข็งแรงแรงดึง (Tensile Strength)

ความต้านแรงดึง คือค่าที่ใช้วัดความสามารถของซิลิโคนในการรับแรงดึงก่อนที่จะฉีกขาด มีความสำคัญในกรณีที่แม่พิมพ์ต้องดึงหรือยืดเพื่อปลดชิ้นงาน เช่น ในการหล่อชิ้นงานที่มีส่วนเว้า

หรือมีโครงสร้างที่ซับซ้อน

ซิลิโคนที่มีความต้านแรงดึงสูงจะช่วยให้แม่พิมพ์ใช้งานได้ทนทาน ไม่ฉีกขาดง่ายเมื่อต้องดึงซ้ำ ๆ

เลือกซิลิโคนให้เหมาะกับงาน = ได้งานดี ใช้ได้นาน

การเข้าใจทั้ง 5 ข้อนี้ จะช่วยให้คุณเลือกใช้ ซิลิโคนทำแม่พิมพ์ ได้ตรงกับประเภทงานและรูปแบบการใช้งานของคุณมากที่สุด หากยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกสูตรใด

ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรายินดีให้คำปรึกษา แชท LINE กับเรา

ตารางค่าความแข็งของยาง
ตารางเปรียบเทียบค่าความแข็งของยาง (Shore A)

สอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อติดต่อ

บริษัท เอสเจ สินธุพันธ์เทรดดิ้ง จำกัด

โทรศัพท์ : 02-379-4555 , 02-379-4575 , 02-379-4604

โทรศัพท์มือถือ : 088-299-0267 , 086-317-1747

Line ID : @resinsj

Facebook : เรซิ่น เอสเจลำสาลี

รอบจัดส่ง