การทำงานศิลปะ ทุกคนไม่จำเป็นต้องใช้พู่กันเสมอไปในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอก การวาดภาพด้วยของเหลวจำเป็นต้องใช้เพียงสี พื้นผิว มือที่นิ่ง มั่นคง และจิตวิญญาณแห่งการศิลปะ
ทุกคนรู้ไหมครับว่า ทุกคนสามารถสร้างภาพวาดที่มีเอกลักษณ์และสะดุดตาได้โดยไม่ต้องใช้พู่กันเพียงอย่างเดียว เทคนิคการวาดภาพด้วยของเหลวเกี่ยวข้องกับการใช้ถ้วยเทสีอะครีลิกลงบนผืนผ้าใบ หรือแผ่นคอมโพสิทด้วยใยแก้ว อยากลองดูไหม? คู่มือการวาดภาพด้วยของเหลวสำหรับผู้เริ่มต้นนี้จะอธิบายทุกสิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องรู้เพื่อเริ่มต้น ตั้งแต่การรวบรวมอุปกรณ์ไปจนถึงการเทสี
การวาดภาพของไหลคืออะไร ?
สร้างงานศิลปะที่งดงามโดยไม่ต้องใช้พู่กัน
การวาดภาพของเหลวหรือที่เรียกว่า resinglass wall art เป็นการเทเรซิ่นตอนที่ยังเหลวๆลงบนผืนผ้าใบ หรือแผ่นคอมโพสิทด้วยใยแก้ว เนื่องจากความสม่ำเสมอของของเหลว สีจึงเคลื่อนที่และกระจายไป ทำให้เกิดรูปทรงออร์แกนิกที่น่าสนใจ หรือเราสามารถกำหนดให้สีไหลไปตามที่เราต้องการ
แม้ว่างานศิลปะประเภทนี้เหมือนจะไม่ได้มีการวางแผนไว้ แต่จริงๆแล้ว จะมีเทคนิคแอบแฝงการด้วยการวาดภาพด้วยของเหลวหลายอย่างที่ทำให้ทุกคนสามารถใช้เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น การทำร่องเพื่อให้เรซิ่นเหลวไหลไปตามร่องนั้น แล้วทำการเอียงเพื่อให้ได้สีตามที่ต้องการ ในทางกลับกัน ก็สามารถเทสีทั้งหมดลงในถ้วยเดียวกัน และเทลงบนผืนผ้าใบ หรือแผ่นคอมโพสิทด้วยใยแก้ว ก็เป็นวิธีที่แตกต่าง และน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
อุปกรณ์ในการใช้งาน
ในการสร้างภาพวาดศิลปะที่ลื่นไหลทุกคนไม่จำเป็นต้องมีพู่กันเสมอไปนะครับ
Tip : ถ้วยพลาสติก
สำหรับเทคนิคการวาดภาพด้วยของเหลวส่วนใหญ่ ทุกคนจะต้องใช้ถ้วยพลาสติก ทุกคนจะต้องผสมสีในถ้วย แล้วเทสีลงบนผืนผ้าใบ ทุกคนยังสามารถใช้ถ้วยพลาสติกเพื่อรองภาพวาดขณะแห้งได้ (หรืออีกทางหนึ่ง ทุกคนสามารถซื้อขาตั้งของจิตรกร ซึ่งผลิตขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ)
การสร้างภาพเขียนแบบฟลูอิดอาร์ตต้องใช้ผ้าใบ สีอะครีลิก สารผสม และอุปกรณ์ผสมบางอย่าง
วิธีการสร้างงานศิลปะ
ขั้นตอนที่ 1: ผสมสี
ในถ้วยพลาสติก ให้เติมสีอะครีลิก หนึ่งสี และสื่อสำหรับเทในอัตราส่วน 1:1 (ใช้ตาชั่งดิจิตอลเพื่อการคำนวณอัตราส่วนที่แม่นยำที่สุด) ผสมให้เข้ากัน โดยต้องขูดขอบและก้นถ้วยออก จากนั้นค่อยๆเติมจนได้เนื้อที่สม่ำเสมอ อาจต้องใช้การลองผิดลองถูกบ้างจึงจะได้เนื้อสีที่ถูกต้อง แต่โดยทั่วไปแล้ว สีควรจะมีลักษณะคล้ายกับน้ำมันเครื่อง มันควรจะไหลได้อย่างอิสระเมื่อทุกคนดึงแท่งกวนขึ้นจากสีโดยไม่ให้น้ำหยด จนเกินไป
ทำซ้ำกับแต่ละสีที่ทุกคนต้องการใช้ โดยใช้ถ้วยแยกสำหรับแต่ละสี
ขั้นตอนที่ 2: เตรียมผ้าใบ กระดาษ หรือแผ่นไม้ที่ต้องการ
ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มทำ ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผืนผ้าใบของทุกคนอยู่ในระดับที่เป็นไปได้ นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในระหว่างกระบวนการทำให้แห้ง เพราะทุกคนไม่ต้องการให้สีเปลี่ยนไปเมื่อแห้ง
ขั้นตอนที่ 3: เทสี
ศิลปะการเพ้นท์ด้วยของเหลวนั้นเป็นการทดลองโดยธรรมชาติ ดังนั้นจึงไม่มีใครกำหนดวิธีในการเพ้นท์สี อย่างไรก็ตาม มีเคล็ดลับบางประการที่สามารถช่วยปรับปรุงการวาดภาพของเหลวของทุกคนได้ โดยทั่วไป ให้เริ่มด้วยสีที่เข้มที่สุดของทุกคน แล้วเทลงในแอ่งเล็กๆ สองสามอัน ไม่ว่าจะเป็นทรงกลม หรือ เส้นตรง จากนั้น เลเยอร์สีอื่นๆ ของทุกคนโดยเพิ่มสีลงตรงกลางแอ่งน้ำที่มีอยู่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เพิ่มแอ่งน้ำไปที่ขอบของผืนผ้าใบ ไม่ใช่เพียงตรงกลาง เพื่อให้สีสามารถกระจายอย่างสม่ำเสมอเพื่อครอบคลุมพื้นผิวทั้งหมด
เพิ่มสีเป็นชั้นๆ เพื่อสร้างแอ่งน้ำหลากสีบนผืนผ้าใบของทุกคน
เพียงเท่านั้นก็จะได้ชิ้นงานที่เกิดขึ้นจากฝีมือของเราเองแล้ววว เนื่องจากขึ้นชื่อว่าศิลปะ จะไม่มีขั้นตอนการทำที่ตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับความต้องการ และความถนัดของแต่ละบุคคลด้วย
เมื่อทุกคนเข้าใจวิธีการพื้นฐานในการสร้างภาพวาดของเหลวแล้ว ทุกคนสามารถทดลองใช้เทคนิคการเทสีต่างๆ ได้ ลองเติมสีเมทัลลิก หรือใช้เครื่องเป่าผมเพื่อสร้างเอฟเฟกต์คลื่นทะเล
ทุกคนจะพบผลงานที่น่าทึ่งที่ทุกคนสามารถแสดงในบ้านของทุกคน หรือว่าจะมอบเป็นของขวัญ หรือขายในฐานะศิลปินก็ได้ครับ
อย่าลืมส่งต่อบทความดี ๆ ให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนด้วยนะครับ
ด้วยรักและหวังดี ResinSj จะพัฒนาบทความที่ดีให้ทุกๆคน ต่อไป ครับ
สามารถรับชมบทความดี ๆ ได้ข้างใต้นี้ได้เลยนะครับ
บริษัท เอสเจ สินธุพันธ์เทรดดิ้ง จำกัด
โทรศัพท์ : 02-3794555 , 02-3794575 , 02-3794604
โทรศัพท์มือถือ : 088-2990267 , 086-3171747
Line ID : @resinsj
Facebook : เรซิ่น เอสเจลำสาลี
“งานเรซิ่น … นึกอะไรไม่ออก บอกเอสเจ”
ผู้เขียน: พี่นิ้ง ResinSJ
พี่นิ้ง เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานเรซิ่น ซึ่งมากด้วยประสบการณ์งานคอมโพสิตทั้งหมด เช่น
งานไฟเบอร์กลาส งานคาร์บอน ไฟเบอร์ และงานซิลิโคน รวมทั้งการสร้างสรรค์ ผสมผสานวัตถุดิบ และเทคนิคเข้าด้วยกัน ซึ่งผ่านการเปิดคอร์สนับ 10 ครั้ง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี และมีคำขวัญที่ว่า "เฝ้าดูลูกค้าเติบโต"