เปรียบเทียบคุณสมบัติของระบบ FRP และเหล็ก
เมื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติของระบบ FRP และเหล็ก เหล็กเป็นวัสดุที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเกือบทุกด้านของวิศวกรรม – ในชั้นโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรม เครื่องกล งานโยธา เหล็กมีความแข็งแรงสูงและเป็นวัสดุที่นิยมมาก แต่ก็ยังมีการแทนที่การใช้งานเหล็ก ด้วยวัสดุพอลิเมอร์เสริมแรงด้วยไฟเบอร์ (FRP) สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า FRP คืออะไร สามารถอ่านได้ที่นี่ ที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าเหล็กจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อเสียหลายประการที่ทำให้ไม่เหมาะสมกับบางระบบ อีกทั้งวัสดุ FRP สามารถเลือกใส่สารเติมแต่งเพื่อเพิ่มคุณสมบัติได้
เหล็กเกิดการกัดกร่อนได้ง่ายมาก การเกิดออกซิเดชันและการกัดกร่อนของสารเคมีเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเหล็ก ระบบ FRP จึงมีบทความสำคัญที่จะมาแทนที่เหล็ก ระบบ FRP ทนทานต่อสารเคมีได้หลากหลาย รวมถึงไม่ได้รับผลกระทบจากความชื้น,ไอน้ำหรือการแช่น้ำ (First Contamination) ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในทะเลหรือใช้สัมผัสกับสารเคมี ใช้สำหรับการทำแทงค์เก็บน้ำหรือถังบำบัดน้ำเสีย นอกจากนี้ระบบ FRP ยังสามารถใส่สารเติมแต่ง (Additive) ทำให้เปลี่ยนคุณสมบัติได้ เช่นเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนให้มากขึ้น (Corrosion Resistance) สารหน่วงการติดไฟ (Flame Retardant) หรือเพิ่มความทนทานต่ออุณหภูมิให้สูงขึ้น (Temperature Resistance)
เมื่อเทียบน้ำหนักต่อน้ำหนัก วัสดุ FRP จะแข็งแรงกว่าเหล็กและมีน้ำหนักเบามาก เมื่อมีน้ำหนักเบา จึงช่วยลดภาระของติดตั้งได้ ประหยัดเวลา และลดต้นทุนในการติดตั้ง
ราคาอาจเป็นหนึ่งในข้อพิจารณาที่สำคัญที่สุดเมื่อเปรียบเทียบวัสดุสำหรับโครงการ เมื่อเราเปรียบเทียบกันตรงๆ เหล็กมีต้นทุนวัสดุเริ่มต้นที่ต่ำกว่า แต่เมื่อเราพิจารณาค่าใช้จ่ายทั้งหมด ระบบ FRP จะมีราคาที่ถูกกว่าและประหยัดกว่ามาก เนื่องจากค่าบำรุงรักษาน้อยกว่า และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ามาก ส่งผลให้ต้นทุนโดยรวมถูกกว่าเมื่อเวลาผ่านไป
เหล็กมีค่าการนำไฟฟ้าและการนำความร้อนสูง ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่อย่างไรวัสดุ FRP มีการนำความร้อนต่ำและมีค่าการนำไฟฟ้าเป็นศูนย์ ยกตัวอย่างเช่นการทำถังเก็บน้ำ เมื่อถังเป็นฉนวนความร้อน จึงมีการถ่ายโอนความร้อนที่ไม่ดี จึงช่วยรักษาอุณหภูมิของน้ำไม่ให้ผันผวนไปตามอุณหภูมิสิ่งแวดล้อม
ข้อสุดท้าย เมื่อเราเปรียบเทียบความง่ายในการก่อสร้าง วัสดุ FRP สามารถสร้างในพื้นที่ก่อสร้างได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องเชื่อมหรือเครื่องหัวตัดพลาสมา นอกจากนี้ยังง่ายต่อการสร้างเป็นรูปทรงที่สลับซับซ้อนได้ง่ายกว่า
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติ ระหว่าง เหล็ก กับ FRP และ อลูมิเนียม | |||
คุณสมบัติ | วัสดุ FRP | เหล็ก | อลูมิเนียม |
การทนต่อสารเคมี | ทนต่อสารเคมีได้หลากหลายและไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำ | หากไม่ต้องการให้เกิดออกซิเดชันและการกัดกร่อนจำเป็นต้องมีการชุบสังกะสี – ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีราคาแพงและซับซ้อน | อาจเกิดการผุกร่อนแบบกัลวานิก |
ความแข็งแรง | เมื่อเทียบน้ำหนักต่อน้ำหนักจะมีความแข็งแรงกว่าเหล็กและอลูมิเนียม ที่แรงอัด – 206.5 เมกะปาสคาล | ค่าแรงอัด – 248.22 เมกะปาสคาล | ค่าแรงอัด – 241.325เมกะปาสคาล |
น้ำหนัก | น้ำหนัก 25% ของเหล็กและ 70% ของอลูมิเนียม | มีน้ำหนักมาก ใช้อุปกรณ์ในการยก ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุ FRP จึงช่วยลดต้นทุน | น้ำหนัก 33% ของเหล็ก |
การนำไฟฟ้า | ที่ไม่นำไฟฟ้า | ต้องต่อสายดินเนื่องจากมีการนำไฟฟ้าสูง | ต้องต่อสายดินเนื่องจากมีการนำไฟฟ้าสูง |
การนำความร้อน | การนำความร้อนต่ำและมีค่าการนำไฟฟ้าเป็นศูนย์ | ค่าการนำความร้อนสูง | ค่าการนำความร้อนสูง |
ทนต่อแรงกระแทก | ไม่ทำให้เสียรูปถาวรภายใต้แรงกระแทก | สามารถเปลี่ยนรูปถาวรได้ | สามารถเปลี่ยนรูปถาวรได้ |
ราคา | ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งที่ต่ำกว่า การบำรุงรักษาที่น้อยกว่า อายุการใช้งานที่ยาวกว่า ทำให้เป็นราคาที่คุ้มค่า | มีราคาถูกที่สุด | ราคาใกล้เคียงกับวัสดุ FRP |
การก่อสร้าง | สามารถผลิตได้ง่าย และออกแบบรูปร่างซับซ้อนได้ง่ายกว่า | มักต้องใช้เครื่องมือเชื่อมและตัดในการก่อสร้าง | สามารถตัดเป็นรูปร่างได้ง่าย |
บริษัท เอสเจ สินธุพันธ์เทรดดิ้ง จำกัด
โทรศัพท์ : 02-3794555 , 02-3794575 , 02-3794604
โทรศัพท์มือถือ : 088-2990267 , 086-3171747
Line ID : @resinsj
Facebook : เรซิ่น เอสเจลำสาลี
“งานเรซิ่น … นึกอะไรไม่ออก บอกเอสเจจร๊า”