งานเรซิ่นแตกร้าว หรือมีรอยเสียหาย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ หรือ มืออาชีพในงานเรซิ่น สิ่งสำคัญคือการเข้าใจสาเหตุและวิธีแก้ไขที่ถูกต้อง เพื่อให้งานกลับมาสมบูรณ์และพร้อมขายต่อได้
สาเหตุหลักของเรซิ่นแตกร้าว
ก่อนที่เราจะไปแก้ไข เราต้องเข้าใจต้นเหตุก่อนว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เรซิ่นแตกร้าว เพื่อที่จะให้เราไม่ต้องทำให้เกิดแบบนี้อีก มาดูกันครับ
อัตราส่วนเรซิ่นกับตัวเร่งแข็งไม่ถูกต้อง
- การผสมเรซิ่นผิดอัตราส่วนอาจทำให้เนื้อเรซิ่นเปราะ แข็งตัวไม่สมบูรณ์ หรือ แข็งตัวเร็วเกินไป แนะนำให้อ้างอิงตามคำแนะนำของสินค้านั้น ๆ
- การผสมเรซิ่นผิดอัตราส่วนอาจทำให้เนื้อเรซิ่นเปราะ แข็งตัวไม่สมบูรณ์ หรือ แข็งตัวเร็วเกินไป แนะนำให้อ้างอิงตามคำแนะนำของสินค้านั้น ๆ
เกิดฟองอากาศในเนื้อเรซิ่น
- เรซิ่นที่เกิดฟองอากาศที่ติดอยู่ในเรซิ่นอาจทำให้เกิดช่องว่าง เมื่อรับแรงอาจเกิดรอยร้าวได้นั่นเองครับ
- เรซิ่นที่เกิดฟองอากาศที่ติดอยู่ในเรซิ่นอาจทำให้เกิดช่องว่าง เมื่อรับแรงอาจเกิดรอยร้าวได้นั่นเองครับ
โดนกระแทก หรือ กดแรงมากเกินไป
- งานเรซิ่นบางประเภท เช่น เครื่องประดับหรือของแต่งบ้าน อาจเปราะหากโดนแรงกระแทก
- งานเรซิ่นบางประเภท เช่น เครื่องประดับหรือของแต่งบ้าน อาจเปราะหากโดนแรงกระแทก
ความร้อนหรือแสงแดดทำลายโครงสร้างเรซิ่น
- ความร้อนสูงอาจทำให้เรซิ่นขยายตัวและเกิดรอยร้าวในภายหลัง
- ความร้อนสูงอาจทำให้เรซิ่นขยายตัวและเกิดรอยร้าวในภายหลัง
พื้นผิวหรือแม่พิมพ์ไม่ได้มาตรฐาน
- หากแม่พิมพ์มีตำหนิ หรือพื้นผิวที่เทเรซิ่นมีสิ่งสกปรก อาจทำให้เกิดรอยแตกร้าวหลังแห้งตัว
- หากแม่พิมพ์มีตำหนิ หรือพื้นผิวที่เทเรซิ่นมีสิ่งสกปรก อาจทำให้เกิดรอยแตกร้าวหลังแห้งตัว
วิธีแก้ไขเรซิ่นแตกร้าว อย่างถูกต้อง ฉบับ Resin SJ
การแก้ไขเรซิ่นแตกร้าวต้องทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เพื่อให้งานออกมาดูดีและคงทน
1. งานเรซิ่นแตกร้าวขนาดเล็ก (รอยร้าวบางๆ หรือรอยขีดข่วน แบบขนแมว)
✅ อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- น้ำยาเคลือบเรซิ่นชนิดใส
- กระดาษทรายเบอร์ละเอียด (800 – 2000) ขัดไล่เบอร์หยาบไปละเอียด
✅ ขั้นตอนการซ่อมแซม
- ขัดบริเวณที่มีรอยแตกร้าวเบา ๆ ด้วยกระดาษทรายเบอร์ 800
- เช็ดฝุ่นออกด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
- เทน้ำยาเรซิ่นบางๆ ลงไปเคลือบรอยร้าว ทิ้งไว้ให้แข็งตัว
- ขัดแต่งผิวอีกครั้งด้วยกระดาษทรายเบอร์ 2000 เพื่อความเรียบเนียน
2. งานเรซิ่นแตกร้าวลึกหรือแตกเป็นชิ้น
✅ อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- เรซิ่นผสมใหม่ (เราแนะนำให้ใช้อีพ็อกซี่เรซิ่นตัวนี้นะครับ)
- แปรงหรือลูกกลิ้งเล็กๆ
- ไม้หนีบหรือตัวยึด
✅ ขั้นตอนการซ่อมแซม
- ทำความสะอาดรอยแตกร้าวให้ไม่มีฝุ่นหรือเศษสิ่งสกปรก
- ใช้เรซิ่นหยอดลงไปในรอยแตกร้าว
- หากรอยร้าวลึก ให้ใช้เรซิ่นผสมใหม่เทลงไปทับพื้นที่ที่มีรอยร้าวลึก
- ใช้ไม้หนีบหรือตัวยึดเพื่อให้รอยร้าวติดกันระหว่างรอเรซิ่นแข็งตัว
- ขัดแต่งพื้นผิวและขัดเงาให้สวยงาม
3. งานเรซิ่นแตกร้าวเป็นรูโหว่ หรือแตกหักรุนแรง
✅ อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- เรซิ่นผสมใหม่ (เราแนะนำให้ใช้อีพ็อกซี่เรซิ่นนะครับ)
- แผ่นไฟเบอร์กลาส (ถ้าต้องการความแข็งแรงเพิ่มขึ้น)
- พู่กันหรือแปรง
- กระดาษทราย
✅ ขั้นตอนการซ่อมแซม
- ล้างทำความสะอาดพื้นผิวที่จะแก้ไข
- ตัดแผ่นไฟเบอร์กลาสให้พอดีกับบริเวณที่ต้องการเสริม
- ทาเรซิ่นลงบนไฟเบอร์กลาสและปิดทับรอยแตกร้าว
- ปล่อยให้เรซิ่นแข็งตัว แล้วขัดแต่งพื้นผิวให้เรียบ
- เคลือบเงาด้วยน้ำยาเรซิ่นใสเพื่อความสวยงาม
5สิ่งควรรู้ ก่อนเริ่มใช้อีพ็อกซี่เรซิ่น
15ขั้นตอน สอนทำงานเรซิ่น สำหรับมือใหม่ ทำเรซิ่นเป็นในบทความเดียว
สาเหตุหลักของปัญหาเรซิ่นแตกร้าว หรือ มีรอย
การที่เรซิ่นเกิดรอยร้าวหรือแตกร้าวขึ้นได้นั้น เกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ปัจจัยทางเทคนิค และ ปัจจัยภายนอก
1. ปัจจัยทางเทคนิค (เกิดจากการทำงานที่ไม่ถูกต้อง)
✅ อัตราส่วนเรซิ่นกับตัวเร่งแข็งไม่ถูกต้อง
- ถ้าใส่ตัวเร่งแข็งมากเกินไป เรซิ่นจะแข็งเร็วเกินไป อาจเกิดการหดตัวและแตกร้าวได้
- ถ้าใส่น้อยเกินไป เรซิ่นอาจจะแข็งตัวไม่เต็มที่ ทำให้เนื้อเปราะและเกิดรอยร้าวในภายหลัง
✅ การผสมเรซิ่นไม่ทั่วถึง
- การกวนเรซิ่นไม่ดีอาจทำให้บางจุดแข็งตัวไม่เท่ากัน ส่งผลให้เกิดรอยร้าวภายหลัง
- ควรใช้ไม้กวนหรือเครื่องกวนที่เหมาะสม และกวนช้าๆ เพื่อลดฟองอากาศ
✅ ฟองอากาศในเรซิ่น
- ฟองอากาศที่ติดอยู่ในเนื้อเรซิ่นทำให้เกิดช่องว่างเล็กๆ เมื่อแห้งแล้วอาจแตกร้าวง่ายขึ้น
- แก้ไขโดยใช้เครื่องไล่อากาศ (Vacuum Chamber) หรือใช้ปืนไฟไล่ฟองที่ช่วยไล่ฟองอากาศก่อนเรซิ่นแข็งตัว
✅ ชั้นเรซิ่นบางเกินไป
- การเทเรซิ่นบางเกินไป (ต่ำกว่า 2 มม.) อาจทำให้เรซิ่นไม่มีความแข็งแรงเพียงพอและแตกหักง่าย
- หากต้องการความบาง ควรใช้เรซิ่นที่มีความยืดหยุ่นสูง หรือเพิ่มชั้นเรซิ่นทีละน้อยเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
✅ เกิดความร้อนสะสมระหว่างการแข็งตัว (Exothermic Reaction)
- การเทเรซิ่นหนาเกินไป อาจทำให้เกิดความร้อนสูงจนเรซิ่นหดตัวหรือแตกร้าว
- ควรเทเรซิ่นเป็นชั้นบางๆ (ไม่เกิน 1 ซม. ต่อรอบ) แล้วรอให้แต่ละชั้นแข็งก่อนเทชั้นถัดไป
2. ปัจจัยภายนอก (เกิดจากสภาพแวดล้อมและการใช้งาน)
✅ อุณหภูมิและความชื้นที่ไม่เหมาะสม
- อุณหภูมิที่เย็นเกินไป อาจทำให้เรซิ่นแข็งตัวช้าและไม่สมบูรณ์
- ความชื้นสูงอาจทำให้เรซิ่นดูดความชื้นและเกิดรอยร้าวหลังจากแข็งตัว
- ควรทำงานในที่แห้งและควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม (ประมาณ 25-30°C)
✅ การโดนแรงกระแทก
- งานเรซิ่นที่มีโครงสร้างเปราะบาง อาจแตกหักง่ายหากโดนกระแทกแรงๆ
- ควรออกแบบให้มีความหนาพอสมควร หรือเพิ่มชั้นไฟเบอร์กลาสเพื่อเสริมความแข็งแรง
✅ การโดนแสงแดดและรังสียูวี
- แสงแดดอาจทำให้เรซิ่นเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เกิดรอยแตกลายงา
- ควรใช้เรซิ่นที่มีสารกัน UV หรือเคลือบด้วยสารป้องกันรังสี UV
✅ การเก็บรักษาเรซิ่นไม่ถูกต้อง
- เรซิ่นที่เก็บไว้ในที่ร้อน หรือมีอากาศเข้า อาจทำให้เนื้อเรซิ่นเสื่อมสภาพ
- ควรเก็บเรซิ่นในภาชนะปิดสนิท และหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด
ข้อควรระวังเพื่อป้องกันปัญหาเรซิ่นแตกร้าว หรือมีรอย
✅ 1. ใช้อัตราส่วนผสมที่ถูกต้อง
- อ่านฉลากผลิตภัณฑ์และใช้ตามอัตราส่วนที่แนะนำ
- ควรชั่งน้ำหนักด้วยเครื่องชั่งดิจิทัลเพื่อความแม่นยำ
✅ 2. กวนเรซิ่นให้ทั่วถึง และไล่ฟองอากาศก่อนเท
- ใช้ไม้กวนอย่างช้าๆ หรือตัวกวนแบบพิเศษ
- ใช้ปืนความร้อนหรือไดร์เป่าเบาๆ เพื่อลดฟองอากาศ
✅ 3. เทเรซิ่นเป็นชั้นบางๆ
- หากต้องการความหนา ให้เททีละชั้นแล้วรอให้แข็งก่อน
✅ 4. ทำงานในอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม
- อุณหภูมิห้องควรอยู่ที่ 25-30°C
- หลีกเลี่ยงการทำงานในพื้นที่มีลมแรงหรือฝุ่นเยอะ
✅ 5. เสริมความแข็งแรงในจุดที่ต้องการ
- ใช้ไฟเบอร์กลาสเสริมในงานที่ต้องการความแข็งแรงสูง
✅ 6. หลีกเลี่ยงการกระแทกและจัดเก็บอย่างเหมาะสม
จัดเก็บงานเรซิ่นในที่ปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการกดทับ
ป้องกันดีกว่าแก้ไข
การที่เรซิ่นแตกร้าว หรือมีรอย ไม่ใช่เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สามารถป้องกันได้ หากรู้สาเหตุและข้อควรระวัง การปฏิบัติตามหลักการที่ถูกต้องจะช่วยให้งานเรซิ่นมีคุณภาพ ทนทาน และสามารถนำไปขายหรือใช้งานได้อย่างมั่นใจ
เคล็ดลับป้องกันไม่ให้เรซิ่นแตกร้าว
💡 เลือกเรซิ่นคุณภาพดี – ใช้เรซิ่นที่มีคุณสมบัติแข็งแรงและยืดหยุ่นพอสมควร
💡 ผสมเรซิ่นให้ถูกอัตราส่วน – อ่านคู่มือของเรซิ่นแต่ละชนิดก่อนใช้งาน
💡 ใช้แม่พิมพ์และพื้นผิวที่เรียบเนียน – ลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกร้าว
💡 เก็บรักษางานเรซิ่นให้ห่างจากแสงแดดจัด – แสง UV อาจทำให้เรซิ่นเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
💡 ระวังการกระแทก – หากเป็นของใช้หรือเครื่องประดับ ควรออกแบบให้มีความแข็งแรงเพียงพอ
สรุป: แก้งานเรซิ่นแตกร้าว ให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
เรซิ่นแตกร้าว เป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ หากมีวิธีที่ถูกต้อง ไม่ว่ารอยแตกจะเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถซ่อมแซมให้กลับมาสวยงามและนำไปจำหน่ายต่อได้ การเรียนรู้วิธีซ่อมแซมเหล่านี้ยังสามารถต่อยอดเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้จากการซ่อมงานเรซิ่นให้กับลูกค้าได้อีกด้วย
ถ้าคุณเคยเจอปัญหาเรซิ่นแตกร้าว หรือมีคำถามเพิ่มเติม ลองแชร์ความคิดเห็นด้านล่าง แล้วมาพูดคุยกัน
ผู้เขียน: พี่นิ้ง ResinSJ
พี่นิ้ง เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานเรซิ่น ซึ่งมากด้วยประสบการณ์งานคอมโพสิตทั้งหมด เช่น
งานไฟเบอร์กลาส งานคาร์บอน ไฟเบอร์ และงานซิลิโคน รวมทั้งการสร้างสรรค์ ผสมผสานวัตถุดิบ และเทคนิคเข้าด้วยกัน ซึ่งผ่านการเปิดคอร์สนับ 10 ครั้ง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี และมีคำขวัญที่ว่า "เฝ้าดูลูกค้าเติบโต"