เรซิ่นเอสเจตัวจริงเรื่องเรซิ่น มาตลอด 30 ปี

โทร :
, 02-379-4555
, 02-379-4575

เรซิ่นเอสเจตัวจริงเรื่องเรซิ่น มาตลอด 30 ปี

วิธีแก้งานเรซิ่นแตกร้าว หรือ มีรอย ให้กลับมาสวยงามเหมือนใหม่

งานเรซิ่นแตกร้าว หรือมีรอยเสียหาย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ หรือ มืออาชีพในงานเรซิ่น สิ่งสำคัญคือการเข้าใจสาเหตุและวิธีแก้ไขที่ถูกต้อง เพื่อให้งานกลับมาสมบูรณ์และพร้อมขายต่อได้

สาเหตุหลักของเรซิ่นแตกร้าว

ก่อนที่เราจะไปแก้ไข เราต้องเข้าใจต้นเหตุก่อนว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เรซิ่นแตกร้าว เพื่อที่จะให้เราไม่ต้องทำให้เกิดแบบนี้อีก มาดูกันครับ

  1. อัตราส่วนเรซิ่นกับตัวเร่งแข็งไม่ถูกต้อง

     

    • การผสมเรซิ่นผิดอัตราส่วนอาจทำให้เนื้อเรซิ่นเปราะ แข็งตัวไม่สมบูรณ์ หรือ แข็งตัวเร็วเกินไป แนะนำให้อ้างอิงตามคำแนะนำของสินค้านั้น ๆ

       

  2. เกิดฟองอากาศในเนื้อเรซิ่น

     

    • เรซิ่นที่เกิดฟองอากาศที่ติดอยู่ในเรซิ่นอาจทำให้เกิดช่องว่าง เมื่อรับแรงอาจเกิดรอยร้าวได้นั่นเองครับ

       

  3. โดนกระแทก หรือ กดแรงมากเกินไป

     

    • งานเรซิ่นบางประเภท เช่น เครื่องประดับหรือของแต่งบ้าน อาจเปราะหากโดนแรงกระแทก

       

  4. ความร้อนหรือแสงแดดทำลายโครงสร้างเรซิ่น

     

    • ความร้อนสูงอาจทำให้เรซิ่นขยายตัวและเกิดรอยร้าวในภายหลัง

       

  5. พื้นผิวหรือแม่พิมพ์ไม่ได้มาตรฐาน

     

    • หากแม่พิมพ์มีตำหนิ หรือพื้นผิวที่เทเรซิ่นมีสิ่งสกปรก อาจทำให้เกิดรอยแตกร้าวหลังแห้งตัว

       

อีพ็อกซี่เรซิ่น [Epoxy Resin] คืออะไร ทำไมถึงไม่มีกลิ่นฉุน

เรซิ่น คืออะไร ? ทำความรู้จักกันก่อนจะไปเริ่มทำงานเรซิ่น

วิธีแก้ไขเรซิ่นแตกร้าว อย่างถูกต้อง ฉบับ Resin SJ

การแก้ไขเรซิ่นแตกร้าวต้องทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เพื่อให้งานออกมาดูดีและคงทน

1. งานเรซิ่นแตกร้าวขนาดเล็ก (รอยร้าวบางๆ หรือรอยขีดข่วน แบบขนแมว)

✅ อุปกรณ์ที่ต้องใช้

  • น้ำยาเคลือบเรซิ่นชนิดใส
  • กระดาษทรายเบอร์ละเอียด (800 – 2000) ขัดไล่เบอร์หยาบไปละเอียด

     

✅ ขั้นตอนการซ่อมแซม

  1. ขัดบริเวณที่มีรอยแตกร้าวเบา ๆ ด้วยกระดาษทรายเบอร์ 800
  2. เช็ดฝุ่นออกด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
  3. เทน้ำยาเรซิ่นบางๆ ลงไปเคลือบรอยร้าว ทิ้งไว้ให้แข็งตัว
  4. ขัดแต่งผิวอีกครั้งด้วยกระดาษทรายเบอร์ 2000 เพื่อความเรียบเนียน

2. งานเรซิ่นแตกร้าวลึกหรือแตกเป็นชิ้น

✅ อุปกรณ์ที่ต้องใช้

  • เรซิ่นผสมใหม่ (เราแนะนำให้ใช้อีพ็อกซี่เรซิ่นตัวนี้นะครับ)
  • แปรงหรือลูกกลิ้งเล็กๆ
  • ไม้หนีบหรือตัวยึด

✅ ขั้นตอนการซ่อมแซม

  1. ทำความสะอาดรอยแตกร้าวให้ไม่มีฝุ่นหรือเศษสิ่งสกปรก
  2. ใช้เรซิ่นหยอดลงไปในรอยแตกร้าว
  3. หากรอยร้าวลึก ให้ใช้เรซิ่นผสมใหม่เทลงไปทับพื้นที่ที่มีรอยร้าวลึก
  4. ใช้ไม้หนีบหรือตัวยึดเพื่อให้รอยร้าวติดกันระหว่างรอเรซิ่นแข็งตัว
  5. ขัดแต่งพื้นผิวและขัดเงาให้สวยงาม

3. งานเรซิ่นแตกร้าวเป็นรูโหว่ หรือแตกหักรุนแรง

✅ อุปกรณ์ที่ต้องใช้

  • เรซิ่นผสมใหม่ (เราแนะนำให้ใช้อีพ็อกซี่เรซิ่นนะครับ)
  • แผ่นไฟเบอร์กลาส (ถ้าต้องการความแข็งแรงเพิ่มขึ้น)
  • พู่กันหรือแปรง
  • กระดาษทราย

✅ ขั้นตอนการซ่อมแซม

  1. ล้างทำความสะอาดพื้นผิวที่จะแก้ไข
  2. ตัดแผ่นไฟเบอร์กลาสให้พอดีกับบริเวณที่ต้องการเสริม
  3. ทาเรซิ่นลงบนไฟเบอร์กลาสและปิดทับรอยแตกร้าว
  4. ปล่อยให้เรซิ่นแข็งตัว แล้วขัดแต่งพื้นผิวให้เรียบ
  5. เคลือบเงาด้วยน้ำยาเรซิ่นใสเพื่อความสวยงาม

5สิ่งควรรู้ ก่อนเริ่มใช้อีพ็อกซี่เรซิ่น

15ขั้นตอน สอนทำงานเรซิ่น สำหรับมือใหม่ ทำเรซิ่นเป็นในบทความเดียว

สีผสมเรซิ่นมีกี่ประเภท แตกต่างกันยังไงบ้าง

สาเหตุหลักของปัญหาเรซิ่นแตกร้าว หรือ มีรอย

การที่เรซิ่นเกิดรอยร้าวหรือแตกร้าวขึ้นได้นั้น เกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ปัจจัยทางเทคนิค และ ปัจจัยภายนอก

 

1. ปัจจัยทางเทคนิค (เกิดจากการทำงานที่ไม่ถูกต้อง)

✅ อัตราส่วนเรซิ่นกับตัวเร่งแข็งไม่ถูกต้อง

  • ถ้าใส่ตัวเร่งแข็งมากเกินไป เรซิ่นจะแข็งเร็วเกินไป อาจเกิดการหดตัวและแตกร้าวได้

  • ถ้าใส่น้อยเกินไป เรซิ่นอาจจะแข็งตัวไม่เต็มที่ ทำให้เนื้อเปราะและเกิดรอยร้าวในภายหลัง

✅ การผสมเรซิ่นไม่ทั่วถึง

  • การกวนเรซิ่นไม่ดีอาจทำให้บางจุดแข็งตัวไม่เท่ากัน ส่งผลให้เกิดรอยร้าวภายหลัง

  • ควรใช้ไม้กวนหรือเครื่องกวนที่เหมาะสม และกวนช้าๆ เพื่อลดฟองอากาศ

✅ ฟองอากาศในเรซิ่น

  • ฟองอากาศที่ติดอยู่ในเนื้อเรซิ่นทำให้เกิดช่องว่างเล็กๆ เมื่อแห้งแล้วอาจแตกร้าวง่ายขึ้น

  • แก้ไขโดยใช้เครื่องไล่อากาศ (Vacuum Chamber) หรือใช้ปืนไฟไล่ฟองที่ช่วยไล่ฟองอากาศก่อนเรซิ่นแข็งตัว

✅ ชั้นเรซิ่นบางเกินไป

  • การเทเรซิ่นบางเกินไป (ต่ำกว่า 2 มม.) อาจทำให้เรซิ่นไม่มีความแข็งแรงเพียงพอและแตกหักง่าย

  • หากต้องการความบาง ควรใช้เรซิ่นที่มีความยืดหยุ่นสูง หรือเพิ่มชั้นเรซิ่นทีละน้อยเพื่อเพิ่มความแข็งแรง

✅ เกิดความร้อนสะสมระหว่างการแข็งตัว (Exothermic Reaction)

  • การเทเรซิ่นหนาเกินไป อาจทำให้เกิดความร้อนสูงจนเรซิ่นหดตัวหรือแตกร้าว

  • ควรเทเรซิ่นเป็นชั้นบางๆ (ไม่เกิน 1 ซม. ต่อรอบ) แล้วรอให้แต่ละชั้นแข็งก่อนเทชั้นถัดไป

 

2. ปัจจัยภายนอก (เกิดจากสภาพแวดล้อมและการใช้งาน)

✅ อุณหภูมิและความชื้นที่ไม่เหมาะสม

  • อุณหภูมิที่เย็นเกินไป อาจทำให้เรซิ่นแข็งตัวช้าและไม่สมบูรณ์

  • ความชื้นสูงอาจทำให้เรซิ่นดูดความชื้นและเกิดรอยร้าวหลังจากแข็งตัว

  • ควรทำงานในที่แห้งและควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม (ประมาณ 25-30°C)

✅ การโดนแรงกระแทก

  • งานเรซิ่นที่มีโครงสร้างเปราะบาง อาจแตกหักง่ายหากโดนกระแทกแรงๆ

  • ควรออกแบบให้มีความหนาพอสมควร หรือเพิ่มชั้นไฟเบอร์กลาสเพื่อเสริมความแข็งแรง

✅ การโดนแสงแดดและรังสียูวี

  • แสงแดดอาจทำให้เรซิ่นเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เกิดรอยแตกลายงา

  • ควรใช้เรซิ่นที่มีสารกัน UV หรือเคลือบด้วยสารป้องกันรังสี UV

✅ การเก็บรักษาเรซิ่นไม่ถูกต้อง

  • เรซิ่นที่เก็บไว้ในที่ร้อน หรือมีอากาศเข้า อาจทำให้เนื้อเรซิ่นเสื่อมสภาพ

  • ควรเก็บเรซิ่นในภาชนะปิดสนิท และหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด

ข้อควรระวังเพื่อป้องกันปัญหาเรซิ่นแตกร้าว หรือมีรอย

✅ 1. ใช้อัตราส่วนผสมที่ถูกต้อง

  • อ่านฉลากผลิตภัณฑ์และใช้ตามอัตราส่วนที่แนะนำ

  • ควรชั่งน้ำหนักด้วยเครื่องชั่งดิจิทัลเพื่อความแม่นยำ

✅ 2. กวนเรซิ่นให้ทั่วถึง และไล่ฟองอากาศก่อนเท

  • ใช้ไม้กวนอย่างช้าๆ หรือตัวกวนแบบพิเศษ

  • ใช้ปืนความร้อนหรือไดร์เป่าเบาๆ เพื่อลดฟองอากาศ

✅ 3. เทเรซิ่นเป็นชั้นบางๆ

  • หากต้องการความหนา ให้เททีละชั้นแล้วรอให้แข็งก่อน

✅ 4. ทำงานในอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม

  • อุณหภูมิห้องควรอยู่ที่ 25-30°C

  • หลีกเลี่ยงการทำงานในพื้นที่มีลมแรงหรือฝุ่นเยอะ

✅ 5. เสริมความแข็งแรงในจุดที่ต้องการ

  • ใช้ไฟเบอร์กลาสเสริมในงานที่ต้องการความแข็งแรงสูง

✅ 6. หลีกเลี่ยงการกระแทกและจัดเก็บอย่างเหมาะสม

จัดเก็บงานเรซิ่นในที่ปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการกดทับ

ป้องกันดีกว่าแก้ไข

การที่เรซิ่นแตกร้าว หรือมีรอย ไม่ใช่เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สามารถป้องกันได้ หากรู้สาเหตุและข้อควรระวัง การปฏิบัติตามหลักการที่ถูกต้องจะช่วยให้งานเรซิ่นมีคุณภาพ ทนทาน และสามารถนำไปขายหรือใช้งานได้อย่างมั่นใจ

เคล็ดลับป้องกันไม่ให้เรซิ่นแตกร้าว

 💡 เลือกเรซิ่นคุณภาพดี – ใช้เรซิ่นที่มีคุณสมบัติแข็งแรงและยืดหยุ่นพอสมควร
💡 ผสมเรซิ่นให้ถูกอัตราส่วน – อ่านคู่มือของเรซิ่นแต่ละชนิดก่อนใช้งาน
💡 ใช้แม่พิมพ์และพื้นผิวที่เรียบเนียน – ลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกร้าว
💡 เก็บรักษางานเรซิ่นให้ห่างจากแสงแดดจัด – แสง UV อาจทำให้เรซิ่นเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
💡 ระวังการกระแทก – หากเป็นของใช้หรือเครื่องประดับ ควรออกแบบให้มีความแข็งแรงเพียงพอ

สรุป: แก้งานเรซิ่นแตกร้าว ให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

เรซิ่นแตกร้าว เป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ หากมีวิธีที่ถูกต้อง ไม่ว่ารอยแตกจะเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถซ่อมแซมให้กลับมาสวยงามและนำไปจำหน่ายต่อได้ การเรียนรู้วิธีซ่อมแซมเหล่านี้ยังสามารถต่อยอดเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้จากการซ่อมงานเรซิ่นให้กับลูกค้าได้อีกด้วย

ถ้าคุณเคยเจอปัญหาเรซิ่นแตกร้าว หรือมีคำถามเพิ่มเติม ลองแชร์ความคิดเห็นด้านล่าง แล้วมาพูดคุยกัน

Picture of ผู้เขียน: พี่นิ้ง ResinSJ
ผู้เขียน: พี่นิ้ง ResinSJ

พี่นิ้ง เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานเรซิ่น ซึ่งมากด้วยประสบการณ์งานคอมโพสิตทั้งหมด เช่น
งานไฟเบอร์กลาส งานคาร์บอน ไฟเบอร์ และงานซิลิโคน รวมทั้งการสร้างสรรค์ ผสมผสานวัตถุดิบ และเทคนิคเข้าด้วยกัน ซึ่งผ่านการเปิดคอร์สนับ 10 ครั้ง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี และมีคำขวัญที่ว่า "เฝ้าดูลูกค้าเติบโต"

สอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อติดต่อ

บริษัท เอสเจ สินธุพันธ์เทรดดิ้ง จำกัด

โทรศัพท์ : 02-379-4555 , 02-379-4575 , 02-379-4604

โทรศัพท์มือถือ : 088-299-0267 , 086-317-1747

Line ID : @resinsj

Facebook : เรซิ่น เอสเจลำสาลี

รอบจัดส่ง